จริง ๆ แล้วศัพท์ Lobbyist จะใช้ในกรณีที่เป็นการวิ่งเต้นประสานงานเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง แต่ยังไงวันนี้ผมก็ขอใช้หน่อยแล้วกันครับ

ช่วงนี้องค์กรที่ผมงานยุ่งมาก ๆ เลย เพราะเรากำลังจะขึ้นโครงการอย่างน้อย 3 โครงการ คือ โครงการระบบ Front Office เต็มรูปแบบเพื่อรองรับลูกค้า 8,000 คนต่อวัน, โครงการระบบ Data Warehouse เพื่อมาทำรายงาน 4 มิติให้กับผู้บริหาร และโครงการพัฒนาระบบ HelpDesk เพื่อรองรับ User ราว 5,000 คนในองค์กรที่ผมทำงานอยู่

สมัยก่อน ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ผมมักพบเสมอว่าองค์กรในประเทศไทยเราขาดบุคลากรที่มีความสามารถในการสร้างซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ คนเก่งมีน้อย คนเรียนจบเอาวุฒิมีเยอะ การจะเฟ้นหาคนเก่งมาทำงาน ยากเต็มที

แต่เดี๋ยวนี้โลกมันเปลี่ยนไปครับ ผมกำลังประสบปัญหาแนวใหม่ นั่นคือ องค์กรที่ผมทำงาน เรามีบุคลากรที่มีหน้าที่พัฒนาซอฟต์แวร์ถึง 50 กว่าคน และทุกคนก็ล้วนจบจากมหาวิทยาลัยมีชื่อเสียง อีกทั้งมีความสามารถในการพัฒนาซอฟต์แวร์ระดับดีด้วย

แล้วมีคนเก่ง คนมีความสามารถเต็มองค์กร แล้วจะมีปัญหาอะไร?

ปัญหาย่อมมีแน่ครับ ก็คนเหล่านี้เก่งไงครับ ดังนั้นการจะเลือกมาทำงานด้วยจึงเป็นเรื่องที่ต้องคิดหนักเอาการเหมือนกัน

ผมได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้ฟอร์มทีมพัฒนาซอฟต์แวร์ขึ้นมา เพื่อพัฒนาระบบการเชื่อมโยงสำหรับ 3 ระบบนี้ อ้วกแตกครับ Front Office เชื่อม Data Warehouse แถมเชื่อมกับระบบ HelpDesk อีก

ผมเลยต้องทำการบ้านครับ ต้องเช็คประวัติการทำงานของนักพัฒนาซอฟต์แวร์ทั้ง 50 กว่าคน เพื่อคัดเลือกคนที่จะมาทำงานด้วย ถึงผมจะพัฒนาซอฟต์แวร์เป็น แต่แบบนี้ทำคนเดียวตายแน่ครับ!!!

ผมค่อย ๆ คัดเลือกคนเหล่านั้นเหมือนกับคัดนางสาวไทยเลยก็ว่าได้ บางคนก็มีความสามารถ แต่ขาดวินัย, บางคนมีความสามารถ แต่ดื้อรั้น โอหัง, บางคนมีความสามารถ แต่ขาดความมั่นใจ, บางคนพัฒนาซอฟต์แวร์ไม่ดีมาก แต่การเขียนพิมพ์เขียวเป็นเลิศ

หลังจากคัดคนได้แล้ว ผมก็ต้องเช็กดูว่าปัจจุบันเขามีงานอะไรอยู่บ้าง คนเหล่านี้มีงานอยู่แล้วทั้งนั้นแหล่ะครับ องค์กรทุกองค์กรจะคล้ายกัน ก็คือว่า ถ้าใครทำงานได้ มีผลงานดี คนนั้นก็จะมีงานทำไม่เคยได้หยุด แต่ถ้าไม่มีความสามารถ ก็ได้นั่งตบยุง ไม่เห็นหัวกันเลย

เมื่อเช็กดูแล้วว่าเขามีงานอะไรบ้างและมีแนวโน้มว่าจะรับทำงานให้กับทีมงานที่ผมจะฟอร์มขึ้นมาได้ ผมก็จะนำรายชื่อแจ้งต่อผู้บังคับบัญชาเพื่อขออนุมัติคนมาทำงานในทีม ซึ่งถ้าผมเลือกแล้ว ผู้บังคับบัญชาก็ไม่อยากจะขัดนัก เว้นแต่จะมีอำนาจเหนือผม ที่สามารถขอคนที่ผมเลือกไปทำอย่างอื่น

จากนั้นก็เป็นเรื่องของการโน้มน้าวทางจิตใจครับ เพราะถึงแม้ผู้บังคับบัญชาจะมีคำสั่งมาแล้วก็ตาม แต่ถ้านักพัฒนาซอฟต์แวร์คนดังกล่าว ไม่รู้สึกพอใจในการทำงานกับทีม เขาก็ไม่สามารถทำให้ดีได้

ผมจำเป็นที่จะต้องเข้าประกบเพื่อชี้แจงต่อคนเหล่านั้น ถึงความจำเป็น บทกำหนดโทษ รวมถึงผลประโยชน์ที่จะได้รับเมื่อทำงานในทีม ซึ่งมันเป็นเรื่องที่เหนื่อยทีเดียว เพราะต้องพูด ใช้วาทศิลป์ล้วน ๆ

สำหรับผมแล้ว การระดมคนมาทำงานในทีมพัฒนาซอฟต์แวร์ ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่าการพัฒนาซอฟต์แวร์ซะอีก เพราะคนเหล่านี้แหล่ะ คือผู้ที่จะมาออกแบบพิมพ์เขียว มาเขียนซอฟต์แวร์ เพื่อให้ได้ผลลัพท์ที่เราต้องการ ถ้าด่านแรกซึ่งก็คือการเลือกคน ระดมคน ยังทำไม่ได้ หรือทำได้ แล้วได้คนไม่ถูกต้องกับงาน สงสัยจะไปไม่รอด

ถ้าใครเคยเล่นเกมส์ Romance of Three Kingdom III จะทราบว่า จุดสำคัญของเกมส์และเป็นเสน่ห์เลยก็คือ การที่เราเชื้อเชิญให้ขุนพล หรือ กุนซือ เก่ง ๆ มาทำงานกับเรานั่นเอง ซึ่งมันก็ไม่ต่างจากนักพัฒนาซอฟต์แวร์ ที่ถือได้ว่าเป็นขุนพลหรือกุนซือของทีมพัฒนาซอฟต์แวร์เลย

กลับมาโม้ต่อครับ

ในที่สุดผมก็ได้คนมาทั้งหมด 10 คนครับ โดยประกอบด้วย ปริญญาโท MIS จากออสเตรเลีย 1 คน, ปริญญาโทมัลติมีเดีย 1 คน, ปริญญาตรีวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ 1 คน และปริญญาตรีวิทยาการคอมพิวเตอร์ 7 คน

ที่เหลือก็ต้องบู๊กันต่อไปครับ

Related Posts

4 thoughts on “Lobbyist

  1. สวัสดีครับพี่ไท้

    พี่ครับไอ้เจ้า “รายงาน 4 มิติ” นี้มันเป็นยังงัยอะครับ อย่าว่าผมโง่เลยนะครับพี่ (จริงๆ แล้วเราก็โง่จริงๆ แหละ :- ) )
    ถ้าไม่เป็นการรบกวนมากเกินไป ช่วยอธิบายหน่อยนะครับพี่

    ด้วยความเคารพอย่างสูงครับ
    chato คนเดิม

  2. ทางบริษัทที่ปรึกษาบอกว่ารายงานที่จะทำให้เป็นแบบ “ลูกบาศก์” + “เวลา” ครับ

    คือมีทั้งกว้าง, ยาว, สูง และเวลา

    ผู้บริหารจะสามารถพลิก “ลูกบาศก์” ดังกล่าวไปในทิศทางใดก็ได้ โดยที่ข้อมูลจะแปรผันตามทิศทางที่พลิก ณ View Point ปัจจุบันที่มองอยู่ นอกจากนี้ยังสามารถดึงข้อมูลถอยหลังเดินหน้าได้ด้วย

    ขอให้เปรียบเทียบเหมือนกับลูกบาศก์สามมิติ ที่ลอยอยู่ในแกน X, Y, Z และมีเส้นประ Time เข้ามาเกี่ยวข้องครับ (พูดไปพูดมาชักจะเหมือนการอธิบายทฤษฎีสัมพัทธภาพภาคพิเศษ ของไอนไสตน์เข้าไปทุกทีแล้ว)

  3. ไม่รู้จะอธิบายไงดีเหมือนกันแฮะ ไว้ไปคิดก่อนแล้วกัน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *