หลายปีที่ผ่านมาผมได้คุยกับคนเก่ง ๆ ทางคอมพิวเตอร์เยอะมาก ผมเลยได้รู้ว่านอกจากพวกเขาจะเก่งแล้ว เพื่อยืนยันความเก่งให้ทบทวีคูณเข้าไปอีก พวกเขาก็ยังต้องมีใบประกาศนียบัตรในด้านมาตรฐาน ผลิตภัณฑ์ หรือ กรอบความคิด เพื่อยืนยันความเชี่ยวชาญเพิ่มเติมด้วย และด้วยเหตุที่ผมเจอคนเก่ง ๆ เยอะนั่นแหล่ะ ผมเลยสามารถ “แบ่ง” ผู้เชี่ยวชาญทางคอมพิวเตอร์ได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ 1) ผู้เชี่ยวชาญด้านปฏิบัติการ พวกเขาจะเก่งสายบู๊ ชำนาญด้านผลิตภัณฑ์หรือกรอบความคิดในการพัฒนา และมักมีใบประกาศนียบัตรด้านปฏิบัติการ เช่น
Tag: คอมพิวเตอร์
เดี๋ยวนี้เครื่องจักรอิเล็กทรอนิกส์หลายอย่าง มันมีคุณสมบัติและประพฤติตนเหมือนกับคอมพิวเตอร์ แต่เรากลับไม่เรียกมันว่าคอมพิวเตอร์ เรามีชื่อเฉพาะสำหรับเรียกมัน เราเรียกมันเป็นอย่างอื่นจนติดปากแทน หลายอย่างมันเคยเป็นอย่างอื่น ทำอย่างอื่นมาก่อน แต่เมื่อมันผนึกเครื่องจักรอิเล็กทรอนิกส์เข้าไปในตัวมัน หลัง ๆ มันก็ทำงานเหมือนคอมพิวเตอร์ซะอย่างนั้น แต่เราก็ยังไม่เรียกมันว่าคอมพิวเตอร์อยู่ดี ผมเองก็รู้จักคอมพิวเตอร์ไม่ครบทุกหมวดหมู่เหมือนกัน ว่าทุกวันนี้มีอะไรที่กลายพันธ์ุหรือวิวัฒนาการ จนตัวมันได้ประพฤติตนเหมือนกับคอมพิวเตอร์ไปแล้วบ้าง ก็เลยลองค้นหาในวิกิพีเดียดู แล้วก็ได้ผลแบบภาพข้างบนครับ ภาพข้างบนที่ผมจับมาจากวิกิพีเดียมันใหญ่ มันต้องกดขยาย ดูยากไปนิด ผมเลยลอกมาทำเป็น Quote ให้ดูแบบข้างล่างนี้แทน (จัดหมวดหมู่เหมือนวิกิพีเดียเป๊ะ) Microcomputer,
ผมเคยเขียนเรื่องหลักสูตรคอมพิวเตอร์ในเมืองไทยเอาไว้ จุดประสงค์เพื่อเรียบเรียงว่าตอนนี้มหาวิทยาลัยในเมืองไทย เปิดหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ในระดับปริญญาและบัณฑิตศึกษากี่หลักสูตรบ้าง ตอนนี้ผมเลยคิดว่าผมต้องมาปรับปรุงมันใหม่อีกครั้ง เพราะโลกมันเปลี่ยน มันมีวิทยาการใหม่ ๆ เกิดขึ้นมา หลักสูตรทางคอมพิวเตอร์มันก็เปลี่ยนตาม แถมคราวที่แล้วผมก็ไม่ได้อธิบายไว้อย่างชัดเจนมากนัก ว่าแต่ล่ะหลักสูตรเขามีจุดประสงค์ในการเปิดการเรียนการสอนเพื่ออะไรบ้าง ในหัวข้อนี้เลยจะมาเล่าให้อ่านกันสั้น ๆ ผมสรุปแล้ว (สรุปเอง) ว่าเราสามารถจัดหลักสูตรคอมพิวเตอร์ในเมืองไทยได้ 10 หลักสูตรใน 4 วุฒิการศึกษาครับ ตามรายการด้านล่างนี้ วุฒิวิทยาศาสตร์ วิทยาการคอมพิวเตอร์ (Computer Science)
เวลาเรียนคอมพิวเตอร์เราก็ต้องเรียนอะไรที่ยาก ๆ ถูกมั้ยครับ แต่ชีวิตจริงออกไปทำงาน ไอ้ที่ยาก ๆ ที่เรียนไปมักไม่ค่อยได้ใช้ เพราะงานส่วนใหญ่ในชีวิตจริงเป็นงานเชิงธุรกิจ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการรับจ้างทำงาน การค้าขาย ดังนั้น เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ เลยกลายเป็นเรื่องหลัก การดูแลเงินทองข้าวของและการดูแลลูกค้าก็เลยเป็นปัจจัยสำคัญในการทำธุรกิจไป ดังนั้น ระบบคอมพิวเตอร์จึงมักถูกติดตั้งและพัฒนาเพื่อการดูแลเงินทองและดูแลลูกค้าตามที่กล่าวมา ระบบคอมพิวเตอร์ที่เอาไว้ดูแลเงินทองข้าวของ ในภาพใหญ่สุดจะเรียกว่า Enterprise Resource Planning ส่วนภาพที่เล็กลงมาก็แบ่งได้เป็น
เมื่อ 17 ปีก่อน ผมเป็นโปรแกรมเมอร์ที่เขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ผมเขียนจะสะอาด มีการกำกับหมายเหตุ มีการกำกับเลขรุ่น เขียนตามหลักการเชิงวัตถุ ถูกเขียนขึ้นเพื่อตอบสนองความซับซ้อนของโจทย์ปัญหาให้ได้ประสิทธิผล ตอนนั้นผมสงสัย ผมสงสัยว่าทำไมผมจึงไม่ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ในขณะที่พี่อีกคนนึงซึ่งด้อยในการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์มากกว่าผม กลับก้าวหน้ากว่ามาก หนำซ้ำยังได้รับความเชื่อถือจากผู้บริหารระดับเบื้องบนอีกต่างหาก ภายหลังผมจึงเข้าใจ การออกไปผจญโลกภายนอกในวิชาชีพคอมพิวเตอร์ (หรือวิชาชีพอื่น ๆ) มันต้องมีทักษะสำคัญ 5 ประการ คือ 1. ความรู้ทางทฤษฎี เช่น
ผมคิดว่าทุกคนที่เรียนมาทางคอมพิวเตอร์ล้วนมีความฝันครับ คือฝันว่าจะสามารถหาเงินจากความชำนาญทางคอมพิวเตอร์ของตัวเองได้ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง การได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบแล้วได้เงิน แล้วเงินที่ได้ทำให้อยู่รอดได้ ทำให้มั่นคั่งได้ มันเป็นสิ่งดี เมืองไทยเราจะก้าวหน้าในทางคอมพิวเตอร์ได้ ก็ขึ้นอยู่กับหนทางในการทำกินของเหล่าบรรดาคนในวงการคอมพิวเตอร์ทั้งหลาย ถ้าพวกเขาอยู่รอดได้ มั่งคั่งได้ พวกเขาก็จะต่อยอดให้วงการคอมพิวเตอร์ของเมืองไทยเรา สร้างพัฒนาการที่ดี ๆ และสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง ผมเลยคิดว่าเป็นการดี ถ้าผมจะนำเอาสิ่งที่ผมรู้มาเรียบเรียง ถ่ายทอดให้พวกเราเห็นว่า วิธีการหาเงินในวงการคอมพิวเตอร์มีกี่วิธี แล้วแต่ล่ะวิธีมันต้องใช้ความชำนาญอะไรบ้าง อันนี้อินเนอร์ล้วน ๆ บวกประสบการณ์
ผมเข้ามาในวงการคอมพิวเตอร์ ช่วงที่คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะมีราคาถูกลง ขับเคลื่อนด้วยระบบปฏิบัติการ MS-DOS และสามารถแสดงผลแบบกราฟิกได้ และก็เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่มหาวิทยาลัยและหน่วยงานทางอุตสาหกรรมชั้นนำของไทย เล็งเห็นถึงความสำคัญในการทำให้คอมพิวเตอร์สามารถนำเข้าข้อมูลเป็นภาษาไทยและแสดงผลแบบภาษาไทยได้ การเกิดขึ้นของ CU Writer ซึ่งเป็นโปรแกรมพิมพ์เอกสารที่ทำงานโดยการเปิดโหมดกราฟิก หรือการเกิดขึ้นของโปรแกรม VThai ซึ่งเป็นโปรแกรมฝังตัวที่ใช้การ Interrupt MS-DOS เพื่อยึดการควบคุมแล้วแสดงผลแบบกราฟิกเพื่อสนับสนุนภาษาไทย ถือเป็นกิจกรรมที่ช่วยแก้ปัญหาเรื่องภาษาไทยบนคอมพิวเตอร์ให้กับคนไทยได้อย่างตรงวัตถุประสงค์ ปัญหาตอนนั้นคือ นำเข้าภาษาไทยไม่ได้ แสดงผลภาษาไทยไม่ได้ ดังนั้น ก็ต้องแก้ปัญหาให้ตรงจุด คือให้มันทำให้ได้ ซึ่งตอนนั้น
สั้น ๆ ได้ใจความครับ มันมีทั้งหมด 5 ระดับ ประกอบด้วย การวิจัยทฤษฎี การวิจัยเพื่อนำทฤษฎีไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ การวิจัยเพื่อนำการประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ไปสร้างต้นแบบ การวิจัยเพื่อนำต้นแบบไปผลิตเชิงพาณิชย์ การวิจัยทางการตลาดเพื่อตอบสนองต่อความพึงพอใจและความต้องการของผู้บริโภค ระดับที่ 1 ถือว่าหินสุด ต้องเป็นระดับดอกเตอร์ ผศ. รศ. ศ. อะไรพวกนั้น ถึงจะวิจัยทฤษฎีได้ คือ มันต้องพิสูจน์ มันต้องอธิบายอย่างลึกซึ้ง มันเป็นวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์
ส่วนใหญ่แล้วอุตสาหกรรมเฉพาะอย่างมักจะอยู่ในกลุ่มของอุตสาหกรรมไฮเทค ซึ่งต้องใช้การคิดค้นวิจัยพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งมีผู้ผลิต (ในโลกหรือในประเทศ) เพียงไม่กี่ราย ที่จะสามารถผลิตสินค้าหรือบริการนั้น ๆ ได้ บางคนคิดว่าอุตสาหกรรมเฉพาะอย่างจะผลิตสินค้าหรือบริการออกมาเพียงน้อยชิ้น เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมมวลชนซึ่งผลิตสินค้าออกมาทีล่ะมาก ๆ แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่อย่างนั้น เพราะอุตสาหกรรมเฉพาะอย่างก็สามารถผลิตสินค้าออกมาทีล่ะมาก ๆ ได้เช่นกัน เพียงแต่สิ่งที่แตกต่างกันก็คือ อุตสาหกรรมมวลชนต้องผลิตครั้งล่ะมาก ๆ เพื่อทำให้ต้นทุนลดลงและมีส่วนต่างกำไรสะสมมากขึ้น ในขณะที่อุตสาหกรรมเฉพาะอย่างสามารถลดต้นทุนและสร้างส่วนต่างกำไรได้ โดยไม่จำเป็นที่จะต้องผลิตออกมาครั้งล่ะมาก ๆ แต่ประการใด
ถ้าเรารับทำโครงการพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เราก็ควรคิดเป็น Man Day อ่ะดิ ถูกแมะ? งั้นถ้าคิดตามหลักสากลทั่ว ๆ ไปที่เขาคิดกัน เราก็ควรจะคิดซัก … 12,500 บาท ต่อ 1 Man Day อ่ะดิ!!! ซึ่งถ้าคิดแบบนี้ก็แสดงว่า ในเวลา 30 วัน (หนึ่งเดือน) ผู้จ้างวานก็ต้องจ่าย 12,500