ไม่ outsource ไม่ได้เหรอ?

เดี๋ยวนี้มีทฤษฎีหรือศัพท์ใหม่ ๆ เข้ามาในวงการไอทีบ้านเราเยอะขึ้นครับ ไม่ว่าจะเป็น outsourcing, offshoring, blue ocean strategy, long tail เป็นต้น ซึ่งเราก็เห่อกันครับ พยายามที่จะเข้าอกเข้าใจแล้วนำมาปรับใช้ในองค์กรที่เราทำงานกัน

มันเป็นเรื่องน่าสนใจอย่างนึงที่ทฤษฎีหรือศัพท์เหล่านี้ มักวนเวียนเกี่ยวพันกับไอทีซะส่วนใหญ่ เป็นการบัญญัติขึ้นเพื่อพยายามที่จะหนีออกไปจากปัญหาเดิม ๆ ปัญหาซึ่งใช้ทฤษฎีเดิม ๆ แก้ไม่ได้ ก็เลยต้องบัญญัติทฤษฎีใหม่ ๆ มาเพื่อแก้กัน ไม่ว่าปัญหาดังกล่าวจะเป็นปัญหาทางเทคนิคในทางไอที หรือปัญหาระดับการจัดการของไอทีก็ตาม

หลายวันก่อนผมถูกระดับนโยบายเรียกเข้าไปคุยด้วยครับ เนื้อหาที่พูดคุยกันก็คือ “ไม่ outsource ไม่ได้เหรอ?” อื้อ เป็นประเด็นที่ต้องขบคิดกันเยอะเลย … ทำไมล่ะ? ก็เพราะว่าองค์กรได้ outsource ส่วนงานหลาย ๆ อย่างออกไปแล้วนี่ แล้วนี่อยู่ ๆ จะมาบอกว่าจะไม่ outsource น่ะมีเจตนาอะไร?

มันก็คงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจอะไรมากนัก หากเหตุผลที่อยากจะเปลี่ยนนโยบายเป็นเพียงเพราะทีมนโยบายทีมนี้เป็นทีมใหม่ ไม่ใช่ทีมเดิมที่มีนโยบายอยากจะ outsource!!!

แต่เหตุผลมันมีมากกว่านั้น ยอดตัวเลขค่าใช้จ่ายในการ outsource ซึ่งผมได้เห็น ทำให้ผมรู้สึกว่าผมเองก็ควรจะตั้งคำถามบ้างเหมือนกันว่า “ไม่ outsource ไม่ได้เหรอ?”

ปรกติแล้วการ outsource ทางไอทีนั้นจะมีอยู่ 2 ลักษณะ

  1. outsource เพื่อสร้างโครงการซอฟต์แวร์ขนาดใหญ่ แบบนี้จ่ายครั้งเดียว ทำเสร็จแล้วก็จบไม่ต้องจ่ายอีก
  2. outsource เพื่อดูแลซอฟต์แวร์ขนาดใหญ่ที่สร้างเสร็จแล้ว แบบนี้จ่ายเป็นงวด ๆ จ่ายไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเลิกใช้ซอฟต์แวร์ตัวดังกล่าว

ระดับนโยบายจะไม่ลังเลในการจ่ายเงินกับการ outsource ในแบบที่ 1 เลย  เพราะมันเป็นการจ่ายแล้วได้ของ แล้วก็หยุดจ่าย!!!

แต่ถ้าเป็นการ outsource ในแบบที่ 2 นั้น ค่อนข้างจะคิดหนัก เพราะนอกจากจะต้องจ่ายเป็นงวด ๆ ไปเรื่อย ๆ โดยไม่หยุดง่าย ๆ แล้ว จำนวนในแต่ล่ะงวดก็สูงมากซะด้วย สูงจนกระทั่งเกิดคำถามง่าย ๆ ขึ้นมาว่า “ใช้คนของเราทำเองไม่ได้เหรอ จะได้ไม่ต้องจ้าง outsource?”

ซึ่งคำตอบของคำถามนี้ก็คือ … คนของเราไม่มีทักษะในการดูแลซอฟต์แวร์ดังกล่าว เหมือนกับที่ outsource เขามีหรอก!!!

ผมเข้าใจปัญหานี้ดีก็เลยสร้างโมเดลสองมิติเพื่ออธิบายให้ระดับนโยบายเข้าใจ ว่าจริง ๆ แล้วมันมีบางส่วนที่เราทำเองได้ แล้วบางส่วนที่เราทำเองไม่ได้

แผนภาพ outsource ควบคุมแบบเบ็ดเสร็จ

จากภาพจะเห็นว่า ถ้าเราให้ outsource เข้ามาควบคุมในอาณาบริเวณที่หลากหลายเช่นนี้ ก็จะเป็นเรื่องชัดเจนอย่างยิ่ง ที่จะทำให้องค์กรของเราต้องจ่ายค่า outsource แพงตามไปด้วย เพราะเขาย่อมต้องคิด manday แบบเม็ดต่อเม็ดในทุกงานที่ต้องทำอยู่แล้ว

แต่เราต้องดูปัญหาหลักจริง ๆ ว่าทำไมเราต้องจ้าง outsource เราต้องตรวจสอบว่าจริง ๆ แล้วเราขาดอะไรกันแน่ แล้วผมก็พบว่าเราขาดในส่วนของ “Development” เท่านั้น ในขณะที่ส่วนอื่น ๆ เราไม่ได้ขาดเลย แล้วเมื่อรู้แบบนี้แล้วเราจะจ้าง outsource ให้มาช่วยดูในส่วนอื่น ๆ ทำไมอีกล่ะ ในเมื่อคนของเราก็ทำได้อยู่แล้ว

ผมก็เลยเสนอภาพใหม่ให้กับระดับนโยบายแทน แบบนี้

แผนภาพ outsource ควบคุมบางส่วน

จะเห็นว่าขอบเขตของ outsource ลดลงเยอะเลย เราไม่จำเป็นต้องให้ outsource มาทำ Management, Authorization และ Functional เพราะคนของเราก็มีทักษะเหล่านี้อยู่แล้ว ทำเองได้อยู่แล้ว!

สรุปแล้ว outsource เป็นสิ่งที่ดีครับ แต่เราต้องรู้ให้เท่าทันว่าการ outsource มันมาช่วยลดต้นทุนให้เรา หรือมาทำให้ต้นทุนเราจมลึกลงไปกันแน่

ถ้าต้องจ่ายเงินแพง ๆ เพื่อกินผักบุ้งไฟแดงของภัตตาคารทุกวัน สู้กลับไปที่บ้านให้เมียผัดผักบุ้งไฟแดงให้กินทุกวันยังถูกซะกว่าอีก

[tags]outsource, คอมพิวเตอร์, ซอฟต์แวร์, การจัดการ, consultant[/tags]

Related Posts

7 thoughts on “ไม่ outsource ไม่ได้เหรอ?

  1. แผนแรกเหมือนเรากินค่าหัว outsource อีกต่อเลยครับ – -”

    outsource ทำทุกอย่างยกเว้นนโยบายกับคุยกับลูกค้า

  2. ต้องเลือกใช้ outsource มาแก้ปัญหาให้ตรงจุด ถึงจะถูก ไม่ใช่จะมาทำทั้งหมดเลย ( outsource ของ .net อะเปล่า จ้างทีมผมก็ได้นะ อิอิ)

  3. “ถ้าต้องจ่ายเงินแพง ๆ เพื่อกินผักบุ้งไฟแดงของภัตตาคารทุกวัน สู้กลับไปที่บ้านให้เมียผัดผักบุ้งไฟแดงให้กินทุกวันยังถูกซะกว่าอีก”

    คิดได้ไงเนี่ย … ฮา ครับ

    ส่วนคนโสดอย่างผมคงต้องกินตามร้านอยู่ดีครับ (ทำเองไม่เป็นครับ) ยอมจ่ายแพงนิดหน่อย แต่ได้กินของอร่อย (เพราะทำเองไม่เป็น) ผมว่าคุ้มค่ีาครับ
    แต่ถ้าทำเองได้และมีเวลา รับรองว่าผมทำเองแน่นอนครับ ไม่ซื้อเขาหรอกครับ

    พี่ไท้ เปรียบเทียบซะเห็นภาพเลยครับ

  4. ทฤษฏีตัวอย่างน่าจะมี Long do (ลองดู) บ้างนะครับ ลองเล่นผสมกับเน้นระยะยาวอย่าง Long Tail เอิ๊กๆ อันนี้ท่าจะเข้าท่าสำหรับมุมมองผมมากกว่าข้ออื่นๆแหะ

  5. ถึงแม้ว่าจะยังไม่มี แต่ผมเดาว่าเมียคือ “ระดับนโยบาย” แน่นอนที่สุด เพราะถ้านโยบายจะลด “out source” ฝ่ายจัดการก็ต้องลด แต่โชคดี “ฝ่ายจัดการ” อาจจะ “in house” อยู่พอดี

    แซวขำๆนะครับผม 🙂

  6. สงสัยจะเป็นแบบนั้นอ่ะครับคุณเอ

    ตกลงคุณข่าทำเกมส์ไม่ใช่เหรอ ไม่ยักรู้ว่าทำ ERP + CRM ด้วย O-O

    ภาพหนึ่งภาพแทนคำล้านคำครับคุณ noomdev

    มีแอบโปรโมตเว็บเล็ก ๆ ด้วยนะคุณเดย์ ไม่ธรรมดาเลย อิ อิ

    หงายหลังเลย เจอมุขคุณ patr เข้าไป ฮา ^o^

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *