วิเคราะห์ Exteen วิเคราะห์ Bignose

ลึก ๆ แล้วผมอยากจะให้ exteen เติบโตไปเรื่อย ๆ นะ ยิ่งเข้าตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอได้ยิ่งดี เพราะผมอยากมีหุ้น IPO ของ exteen เก็บไว้ในพอร์ตการลงทุนของผม เพื่อให้ผมได้เก็บกินเงินปันผลได้ในยามแก่เฒ่า นอกเหนือจากการรับเงินปันผลจากหุ้นอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่ทุกวันนี้ผมมีอยู่ในพอร์ตการลงทุน

แต่ในฐานะนักลงทุนคนนึง การที่เราจะลงทุนในกิจการใด ๆ นั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องวิเคราะห์ธุรกิจนั้น ๆ ก่อน ว่ามีความคุ้มค่าเพียงใดในการลงทุน ซึ่งถ้าบริษัทดังกล่าวมีการเปิดเผยงบการเงิน ก็จะเป็นการง่ายในการวิเคราะห์ แต่หากกิจการดังกล่าวไม่ได้มีการเปิดเผยงบการเงิน เราก็จำเป็นที่จะต้องวิเคราะห์ทางอ้อม โดยการตรวจสอบจากสิ่งยึดโยงที่อยู่รอบ ๆ บริษัทดังกล่าว

มองมุมกลับกัน หากผมไม่ได้มอง exteen ด้วยสายตานักลงทุน หากแต่มองผ่านด้วยสายตานักการจัดการ ก็จะพบกรณีศึกษาที่น่าสนใจมาก ในเมืองไทยเรามีกรณีศึกษาแบบนี้ไม่เยอะนัก เรียกได้ว่าสามารถหยิบยกมาทำเป็นวิทยานิพนธ์ MBA ได้เลยทีเดียว

กรณีศึกษาที่ว่าก็คือความสัมพันธ์ระหว่าง exteen และ bignose!!!

ผมรู้จักป๋า bignose ผ่านบล็อก bignoseschool โดยไม่เคยทราบระแคะระคายมาก่อนว่าป๋าแกดังมากที่ exteen (ความโง่ไม่เคยปราณีใครครับอันนี้ T-T) ที่ซ้ำร้ายกว่านั้น ผมรู้จัก exteen ทีหลังรู้จักป๋า bignose ซะอีก ฮา 😛

บล็อกของป๋า bignose ถือว่าเป็นผู้เคลื่อนไหวคนแรก ที่ใจกล้า ๆ เอาเนื้อเพลง, เสียงเพลง และ MV มาแปะไว้ในบล็อก โดยมิได้เกรงกลัวต่อกฎหมายลิขสิทธิ์แต่ประการใด (ซึ่งลึก ๆ แล้วผมก็หวังว่าป๋าแกจะเคลียร์กับบริษัทค่ายเพลงได้ หรือมีพรรคพวกเพื่อนฝูงที่จะทำให้ไม่ต้องเดือดเนื้อร้อนใจอะไรกับเรื่องเหล่านี้)

ปัจจุบันเป็นที่รู้กันทั่วไปว่า exteen เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมสูงมาก ถูกจัดอันดับโดย Truehit ว่าเป็นเว็บไซต์ที่มีอันดับเฉลี่ยอยู่ที่ 6-8 ของประเทศ มี Unique IP เฉลี่ยที่ 120,000 UIP ต่อวัน!!!

โชกุนผู้อยู่ใต้จักรพรรดิ์ 

ทีนี้เรามาดูสถิติ Traffic ของเว็บไซต์ exteen ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2550 กันดูดีกว่า

สถิติ exteen วันที่ 15 พฤศจิกายน 2550

ส่วนนี่ก็แผนภูมิวงกลม

กราฟสถิติ exteen 15 พฤศจิกายน 2550

ด้วยลูกเล่นใหม่ของ Truehit จึงทำให้เราสามารถทราบอันดับของบล็อกได้ แล้วสถิติมันก็ได้แสดงให้เห็นว่า bignose และ vdoclip เป็นบล็อกอันดับ 1 และ 2 ของ exteen และของประเทศไทย!!! (จริง ๆ ไม่ต้องมี Truehit ก็พอจะรู้ได้อยู่แล้ว)

ซึ่งหลักฐานที่แสดงว่า bignose และ vdoclip เป็นบล็อกของป๋า bignose นั่นก็คือ การที่ทั้งสองบล็อกมี google analytic เบอร์เดียวกัน … เป๊ะเลย!!! (ป๋า bignose จะต่อยผมมั้ยเนี่ย T-T ดันไปสู่รู้) <-- ป๋า bignose บอกว่า vdoclip ไม่ใช่ของป๋าเค้าน่ะครับ งั้นผมขอถอนคำเขียนครับ

จากสถิติที่นำเสนอออกมา จะเห็นจุดที่น่าสนใจอยู่จุดนึงนั่นก็คือ 67% 42% 32% (ท่านแชมป์แจ้งว่าตัวเลขที่ถูกต้อง ต้องประมาณนี้) ของ Traffic หรือก็คือประมาณ 80,000 50,000 38,000 UIP (อัตราส่วนก็ลดลงมาตามตัวเลขที่ท่านแชมป์แจ้งมา) ของ exteen นั้น มาจากบล็อกทั้งสองบล็อกของป๋า bignose มองแบบนี้แล้วก็ถือได้ว่าเป็นตัวเลขที่ใหญ่มากเลยทีเดียว

ลองสมมุติว่าถ้าปุบปับป๋า bignose เกิดรวยพอแล้ว ไม่อยากจะทำบล็อกแล้ว อยากจะย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดอันร่มรื่น ปลูกพืชผักสวนครัวอย่างมีความสุข แล้วลงมือยุติบทบาทบล็อกของตัวเอง โดยการลบทุก entry ที่ตัวเองเขียนไว้ที่ exteen ออกไป อะไรจะเกิดขึ้น!!!

อือม จริง ๆ มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรเท่าไหร่นะผมว่า ก็แค่ทำให้ exteen สูญเสีย UIP ไป 67% 42% 32% แล้วทำให้ exteen อันดับลดลงมานิดหน่อย มาอยู่ประมาณอันดับที่ 45 23 18 ซึ่งยังไงก็ยังยืนตำแหน่งสูงกว่า gotoknow และ oknation อยู่ดี

conflict of interest

การที่จะหวังให้ exteen เข้าตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอได้ นั่นก็ย่อมแสดงว่า exteen จะต้องมีรายได้ซึ่งสูงมาก นำมาซึ่งกำไรสุทธิที่สูงเข้าไปอีก จนกระทั่งสามารถจะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น เพื่อนำเงินดังกล่าวย้อนกลับมาเพิ่มทุนให้กับ exteen อีกทอดนึง กติกาง่าย ๆ เพิ่มทุนจดทะเบียนถึง 20 ล้านบาทเมื่อไหร่ ก็เข้าตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอได้เมื่อนั้น (นี่กติกาง่าย ๆ เหรอเนี่ย T-T)

งั้นกุญแจสำคัญในการเติบโตมันก็คงต้องอยู่ที่รายได้สินะ ซึ่งปัจจุบันนี้ exteen ก็มีรายได้จากการโฆษณา โดยอาศัยกลุ่มเนชันเป็นผู้จัดการโฆษณาให้ ซึ่งจุดนี้ก็น่าสนใจ เนื่องจาก exteen มีพื้นที่สำหรับโฆษณาอยู่แค่ที่เดียวเท่านั้น นั่นก็คือที่หน้าแรกของเว็บไซต์ ส่วนพื้นที่บล็อกภายในของสมาชิกนั้น เคยอ่านเจอมาว่าทางทีมงานมีนโยบายที่จะไม่เข้าไปข้องแวะด้วย

ถ้าผมเป็นตัวแทนขายโฆษณาให้กับ exteen ผมเองก็คงจะต้องนอนเอามือก่ายหน้าผากคิดหนักเหมือนกัน เพราะ Traffic ที่เข้ามาที่ exteen นั้น ส่วนใหญ่เข้าตรงไปยังบล็อกของเหล่าสมาชิกเลย มีเพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้นที่เข้ามาที่หน้าหลักหน้าแรก พอเป็นแบบนี้แล้วก็เลยทำให้ไม่สามารถใช้ Traffic ที่มีอยู่ ให้มันเกื้อหนุนกับการทำโฆษณาได้เลยแฮะ

ทีนี้มองย้อนกลับไปที่ป๋า bignose บ้าง รายนั้นน่าจะบรรลุโสดาบันทาง MBA แล้วกระมัง เนื่องจากสามารถสร้างรายได้จากบล็อกที่ exteen ได้พอควร (อันนี้เดาเอาเอง) โดยมีการวางรูปแบบการหารายได้ที่ชัดเจน ชูให้ bignose เป็นตัวหารายได้จาก adsense, widgetbuck และ kontera ส่วนทาง vdoclip ก็จัดวางให้เป็นพื้นที่สำหรับโฆษณาโดยนิภา

โดยภาพรวมแล้วมันเลยดูเหมือนกับว่า exteen มีช่องทางในการหารายได้จากการโฆษณา น้อยกว่าบล็อกของป๋า bignose ซึ่งพักพิงอยู่ใน exteen ซะอีก ผมถึงบอกไงว่ามันเป็นกรณีศึกษาทาง MBA ที่น่าสนใจมาก!!!

Final Destination

เข้าใจว่าทั้งสองฝ่ายต่างก็ยังคงต้องพึ่งพิงอิงแอบ ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันต่อไป ตามกฎแห่งการเติบโตของเว็บไซต์ แต่เหนือสิ่งอื่นใด ผมหวังว่าทั้งสองฝ่ายน่าจะมีโอกาสได้จับมือกัน เพื่อทำให้เว็บไซต์ exteen เติบโตยิ่ง ๆ ขึ้นไปอีก เพื่อที่ว่าอีก 10 ปีข้างหน้า ผมจะได้เอาหุ้น exteen มาเก็บไว้ที่พอร์ตการลงทุนของผมได้ซะทีนึง 😛

[tags]exteen, bignose, vdoclip, คอมพิวเตอร์, เว็บไซต์, บล็อก[/tags]

Related Posts

14 thoughts on “วิเคราะห์ Exteen วิเคราะห์ Bignose

  1. ต้องขอออกตัวก่อนครับว่า ผมเป็นพวก idealist คือ จะคิดอะไรเป็นสังคมอุดมคติหน่อย ๆ หวังว่าพี่ไท้คงไม่ถือสาครับ

    พอได้เห็นสถิติที่พี่ไท้เอามาให้ดูแล้ว ทำให้ผมต้องขบคิดสองเรื่องด้วยกัน คือ เรื่องของสัญญาอนุญาต กับ เรื่องของพฤติกรรมการใช้อินเตอร์เนตของคนไทย

    เรื่องของสัญญาอนุญาต ผมคงไม่เขียนอะไรมาก เพียงแค่รู้สึกว่า เป็นเรื่องที่บ้านเรายังมีการปล่อยปละละเลยกันอยู่ และบล็อกของคุณ BigNose ก็เป็นตัวอย่างที่ดี

    ส่วนเรื่องพฤติกรรมการใช้อินเตอร์เนต เป็นเรื่องที่ผมสนใจและสังเกตมาได้สักพัก ผมรู้สึกว่า คนไทยส่วนมากยังใช้อินเตอร์เนตได้อย่างไม่เกิดประโยชน์สูงสุด เพราะยังมองว่าอินเทอร์เนตเป็นแหล่งรวมความบันเทิงที่หนึ่งเท่านั้น ทั้งที่อินเทอร์เนตมีประโยชน์มากกว่านั้นเยอะแยะ ซึ่งผลก็ออกมาดังที่พี่ไท้นำสถิติมาให้ดู

    ไม่ใช่ว่าผมไม่เห็นด้วย หรือ ไม่เสพความบันเทิงบนอินเตอร์เนตนะครับ เพียงแต่ว่าอัตราส่วนระหว่าการใช้อินเตอร์เนต ในด้านอื่น ๆ (แหล่งรวมข้อมูล แหล่งรวมความรู้ พื้นที่แสดงความคิดเห็น ฯลฯ) กับด้านบันเทิง ของคนไทย มันต่างกันมาก ๆ จนน่าใจหาย และตกใจ ซึ่งพฤติกรรมอันนี้เอง มันสะท้อนโครงสร้างอะไรหลาย ๆ อย่าง ออกมาจากสังคมไทย (ที่ไม่ใช่ Cyber) ได้เยอะพอสมควร

  2. คุณ bow_der_kleine คอมเมนต์ได้น่าสนใจครับ

    ประเด็นการเสพแต่ความบันเทิงด้วยอินเทอร์เน็ตในปัจจุบัน ต้องไปดูกันตั้งแต่รากฐานของสังคมไทย
    ที่คนของเราอ่านกันน้อย ไม่ค่อยนิยมบริโภคความรู้กันสักเท่าไร และมันก็ส่งผลให้เป็นบันเทิงบริโภคอย่างที่เห็น
    อย่าง kapook.com เองยังบอกว่าที่เว็บกระปุกเป็นแบบนี้ก็เพราะเป็นไปตามความต้องการของผู้บริโภค
    ถ้าสามารถดึงให้คนเข้ามาชมมาก ก็ยิ่งขายโฆษณาได้มาก

  3. จริงๆ แล้ว กราฟไม่ถูกต้องนักนะครับ เนื่องจากไม่ได้คิด UIP ส่วนที่ intersect ระหว่าง vdoclip และ bignose ซึ่งมีจำนวนมากอยู่ และไม่ได้คิดประเด็นที่ว่า คนที่เข้าบล็อกของคุณ bignose หรือ vdoclip ก็มีโอกาสที่จะเข้าบล็อกอื่นๆ ของ exteen ด้วย ดังนั้น UIP ที่จะลด ไม่ถึง 67% แน่นอน

    แต่หากพูดถึงว่า ตัวเลขคนเข้าชมของคุณ bignose และ vdoclip มีนัยสำคัญต่อ exteen ไหม ตรงนี้ตอบได้ว่ามีครับผม

  4. vdoclip ไม่ใช่ของผมนะครับท่าน เจอ copycat คนของทำ website vdo บาง web เข้าไป ทำซะเหมือนผมเลย แถมยังมา spam ใน blog ผมอีกเวลาเผลอ

    นานๆมาทีเพราะยุ่งมากครับ ค่ายเพลงให้ดูแลเรื่องการ comment ครับ

  5. ที่ http://www.thaivi.com เป็นที่รวมความรู้ในการลงทุนครับคุณ pete ลองแวะไปที่นั่นได้เลย เซียนและเทพอยู่กันเต็มไปหมด

    สงสัยจะเป็นอย่างที่คุณ theink บอกอ่ะครับคุณโบว์ เมืองไทยเรานั้น ธุรกิจตอบสนองต่อคนหมู่มากครับ

    ทำให้ exteen โต ๆ นะท่านแชมป์ สู้ ๆ ครับ 🙂

    อ๋าจริงดิป๋า bignose งั้นผมก็เข้าใจผิดดิ งั้นผมแก้ไขเนื้อความให้ก็แล้วกันนะ

  6. สำหรับเรื่อง Google Analytic นั้นเป็นคีย์เดียวทั้งเว็บครับ เนื่องจากทางเว็บเอาไว้ดูสถิติ

    จริงๆ ตัวเลข UIP นั้นจะไม่ถึง 42% นะครับ เนื่องจากจำนวนผู้ดูของคุณ BigNose สามารถที่จะเ้้ข้าบล็อกอื่นๆ ของ exteen ได้อีก จริงๆ แล้วอยู่ที่ราวๆ 28-32% ครับผม ตัวเลขตรงนี้ไม่แน่นอนนะครับ

  7. ผมชื่นชมความสามารถของ คุณ Champ นะครับที่ทำให้เว็บ Exteen ประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้ แต่รู้สึกเป็นห่วง Business Model ของ Exteen มากๆ เลย เรื่องที่ไม่มีโฆษณาในหน้า Blog ของสมาชิก ก็เป็นเรื่องน่าชื่นชมด้วยใจ แต่จริงๆ แล้วนี่เป็นจุดขายของ Exteen จริงๆ หรือ เคยลองทำรีเสริซดูหรืเปล่าครับ บางทีผู้ใช้ อาจไม่รู้สึกถึงความแตกต่าง ระหว่างมีโฆษณา หรือ ไม่มีโฆษณาในหน้า Blog ก็ได้

    อ้อ.. ผมเพิ่งทำรีเสริซเรื่องเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ต ซึ่งในนั้นมีคำถามเกี่ยวกับเว็บไซต์ที่รู้จักอยู่ด้วย ในั้นผมใส่ exteen.com เข้าไปด้วย โดยเน้นไปที่กลุ่มเด็กมหาวิทยาลัย 17-22 ปี ปรากฏว่ามีแค่ 2% เท่านั้นที่รู้จักเว็บ exteen ซึ่งผิดจากที่ผมคาดคิดไว้มาก ซึ่งกลับกลายเป็นว่าคนที่รู้จักเว็บ exteen เป็น first jobber เป็นส่วนมาก อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจว่ามีการรีเสริซของผมมีอะไรผิดพลาดหรือเปล่า…

  8. เรื่อง business model ของ exteen นี่ค่อนข้างยาก + ลำบากใจ พอสมควรเลยครับ

    อยากรบกวนคุยกับคุณพี่ไท้ พี่ไท้สะดวกช่องทางไหนบ้างครับผม

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *