ผมเคยซื้อหุ้นสามัญในตลาดหลักทรัพย์ตัวนึงครับ เป็นหุ้นของบริษัท บิซิเนสออนไลน์ จำกัด (มหาชน) มีสัญลักษณ์ย่อว่า BOL

บริษัทดังกล่าวทำธุรกิจขายข้อมูลครับ แต่ไม่ใช่ขายข้อมูลดิบนะ เป็นการขายข้อมูลที่ผ่านการย่อยมาส่วนหนึ่งแล้ว ซึ่งผมเห็นว่าเป็นธุรกิจที่ดีมาก ๆ เลยล่ะ เพราะไม่ต้องสร้างโกดังเพื่อเก็บสินค้า ไม่ต้องสร้างโรงงานเพื่อผลิตสินค้า โกดังและโรงงานสำหรับผลิตสินค้า อยู่ในรูปของคอมพิวเตอร์เพียงไม่กี่ตัว ต้นทุนถูกเหลือเกิน!!!

หลังจากวิเคราะห์ธุรกิจและงบการเงินแล้ว ผมก็ตัดสินใจซื้อหุ้นของบริษัทดังกล่าวครับ โดยซื้อที่ราคา 1.89 บาท ซื้อมาเป็นจำนวน 200,000 หุ้น แล้วก็ถือไว้ซักพักใหญ่ ๆ จนได้เงินปันผล โดยปันผลนั้นคิดเป็นผลตอบแทนที่ 4% ของเงินลงทุน

จากนั้นผมก็ขายมันออกไปทั้งหมด โดยคิดว่ามันคงจะไม่เติบโตไปกว่านี้อีกแล้ว … แต่ผมคิดผิด!!!

ปัจจุบันนี้ราคาหุ้นตัวนี้อยู่ที่ 8.75 บาทต่อหุ้น และยังคงมีทีท่าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ผมประมาทมองข้ามธุรกิจขายข้อมูลมากเกินไป ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็วิเคราะห์เอาไว้ดีแล้ว แต่ดันไม่เชื่อมั่นในการวิเคราะห์ของตัวเองซะนี่!!

ตอนนี้นอกจากการหาเงินจากเน็ตด้วยการโฆษณาแล้ว การหาเงินจากเน็ตโดยการขายข้อมูลก็เป็นอีกหนทางหนึ่ง ที่จะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจได้เช่นกัน

ประเด็นจึงอยู่ที่ว่าข้อมูลอะไรบ้างล่ะ ที่เราจะเอามาขายได้ โดยไม่ละเมิดต่อสิทธิส่วนบุคคล, สิทธิบัตร, ลิขสิทธิ์ และเครื่องหมายการค้า?

โลกในอนาคตคงจะมีข้อมูลดิบอยู่อย่างกลาดเกลื่อน ในขณะที่ข้อมูลซึ่งถูกย่อยจนตกผลึกกลายเป็นสาระสำคัญนั้น หาแทบไม่มีเลย ต้องซื้อลูกเดียว!

[tags]ธุรกิจ,ขายข้อมูล,ข้อมูล,สมมติฐาน,คอมพิวเตอร์,ซอฟต์แวร์,อินเตอร์เน็ต,SaaS,Software as a Service[/tags]

Related Posts

7 thoughts on “ธุรกิจขายข้อมูล

  1. พี่ไท้พอจะแนะนำ หนังสือด้านการวิเคราะห์ออกแบบระบบดีๆไหมครับ พอดีสนใจด้านนี้ แต่หาอ่านไม่ได้เลยครับ

  2. งานนี้พี่ไท้อาจสร้างแรงอะไรบางอย่างโดยไม่รู้ตัว ราคาหุ้นอาจขึ้นก็ได้นะ …

  3. ผมไม่รู้เกี่ยวกับหนังสือการวิเคราะห์ออกแบบระบบเลยครับคุณ pete สิ่งที่รู้ได้จากประสบการณ์ตอนทำงานครับ

    ผมไม่ใช่รายใหญ่อ่ะครับคุณ crucifier ม่ะมีทางสร้างราคาได้แน่นอน 😛

  4. โอ้โห
    นี่ขนาดเป็นคนนึงที่เทรดหุ้นออนไลน์ด้วย
    ยังไม่เคยรู้จักตัวนี้เลยค่ะ เพราะเท่าที่เทรดอยู่เนี่ย วนตัวเดิมๆ ไม่ค่อยได้ศึกษาตัวใหม่อะไร ยกเว้นตอน IPO ก็สนกันทีนึง
    จากที่เช็คราคา เป็นช่วงประมาณ March-April ปีก่อนนี่เองใช่ไหมคะ
    หุหุ นี่ถ้าคิดว่า ยังถือต่อ กำไรตั้ง สามสี่ร้อย % เลยนะนั่น

  5. ตอนนี้ในบ้านเราก็มีการสร้างContentดีๆขึ้นมามากขึ้นพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นBlognoneและNarisaและพี่ไท้เองก็ด้วยรวมถึงBlogerท่านอื่น
    แต่ผมว่ายังไม่พอน่ะอยากให้เด็กไหม่ที่กำลังเริ่มในสายอาชีพนี้มีโอกาสพัฒนาตัวเอง
    ด้วยContentดีๆอย่างมากมาย ผมมองว่าวิธีนี้น่าจะเป็นวิธีที่ช่วยให้มีการพัฒนาในบ้านเราในวงกว้างได้ โดยที่ไม่ต้องรอการช่วยเหลือจากภาครัฐเพียงอย่างเดียว(ผมเลิกหวังไปแหละ)

    แล้วเราจะหาModelทางธุรกิจยังไงที่เข้ามาทำงานร่วมกับContentดีๆเหล่านี้
    ที่จะไม่เป็นการHard Sellจนเกินไป ให้ได้รับผลประโยชน์ที่เสมอภาคกันทั้งสองฝ่าย

  6. มีบางส่วนที่ยังไม่รู้เลยครับว่าการอ่าน Blog นั้นมีอะไรดีๆมากกว่าที่คิด ส่วนมากจะเข้าใจว่า Blog คือ บันทึกประจำวันแบบออนไลน์ และยังมีอีกมากมายที่ใช้ Internet เพียงแค่ MSN, hi5, flash game, search ข้อมูล

    สังเกตุจากมหาลัยตัวเองครับ ^^”

  7. ^o^ นี่เป็นราคาเมื่อสองปีก่อนครับคุณ Saikaew ม่ายช่ายปีก่อน

    อ่าฮ่า งี้ก็ต้องคิดกันต่อไปครับคุณ memtest

    เมืองไทยเรายังมีช่องว่างให้บล็อกเติบโตกันอีกนานครับคุณ Pete

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *