สองวันนี้ผมต้องไปเรียนเกี่ยวกับ SAP โมดูล CO ซึ่งก็คือโมดูล Controlling ที่ปูนใหญ่ครับ เมื่อพักกินอาหารว่างเลยได้มีโอกาสพูดคุยกับอาจารย์ที่สอน SAP-CO เท่าที่ดูเหมือนอาจารย์จะแก่กว่าผมซักสองปีเห็นจะได้

เนื้อหาที่คุยก็เป็นเรื่องของ Freelance ครับ อาจารย์เล่าว่าตนเองนั้นเป็น Freelance คอยวิ่งเต้นหางานสร้างซอฟต์แวร์ แล้วก็ไม่ใช่ซอฟต์แวร์ระดับเล็ก ๆ ด้วยนะ เป็นระดับใหญ่เลยล่ะ จากนั้นก็ระดมคนเก่ง ๆ มาทำงานด้วยกัน ระยะเวลาโครงการก็อาจจะปีหรือสองปีก็ว่ากันไป เซ็นสัญญาทำงานร่วมกัน งานเสร็จก็แยกย้ายกันไป

ผมไม่ค่อยสนใจเรื่องทางเทคนิคมากนัก จึงเจาะถามเกี่ยวกับเรื่องการจัดการโครงการมากกว่า ซึ่งอาจารย์ก็เล่าให้ฟังว่า การรับงานมานั้น จุดยากไม่ใช่การประเมิณโครงการ หรือประเมิณความต้องการ แต่อยู่ที่การรวบรวมกำลังคน และการคิดคำนวณราคาต่างหาก

พอดีอาจารย์ได้งานพัฒนา SAP ที่สถาบันการศึกษาแถวสามย่าน ทำ SAP เพื่อครอบคลุมสำหรับทุกคณะเลย ซึ่งผมว่าอาจารย์เขาคิดราคาถูกไปนะ เพราะใช้ทีมงาน 30 กว่าคน คิดราคาโครงการ 40 ล้านบาท ผมเองก็มีติงอาจารย์เหมือนกันว่าคิดราคาถูกไป ซึ่งอาจารย์เองก็บ่น ๆ เหมือนกันว่างานนี้ขาดทุนแน่ แต่ยังไงก็คงต้องทำ

ผมถามอาจารย์ว่ามีปัญหา Freelance ถอนตัวออกจากทีมมั๊ย อาจารย์บอกว่าเพิ่งโดนไป 4 คน ออกติด ๆ กันเลย เพราะโดนดึงตัวไป อาจารย์บ่นว่าการจัดการคนเก่งยากกว่าจัดการซอฟต์แวร์ยาก ๆ อีก

เรื่องวงการ IT Freelance นั้น ผมเองก็ทราบธรรมชาติการใช้ชีวิต และการเติบโตของพวกเค้าเหมือนกัน สิ่งที่ผมพบนั้นน่าสนใจมาก คนพวกนี้เป็นคนระดับเกรด A เลยนะ ถ้าเทียบกับพนักงานประจำซึ่งทำงานในบริษัท IT Consult แล้ว คนเหล่านั้นยังแค่เกรด B เอง และทุกวันนี้คนเก่งที่สุดในบริษัท IT Consult ก็ล้วนเป็นคนเกรด B ทั้งนั้น จะมีบ้างที่ B+ แต่ก็ไม่มาก

IT Freelance ทั้งหมดล้วนเติบโตจากการเป็นคนเกรด B ในบริษัท IT Consult ครับ พวกเขาก้าวข้ามขั้นสู่การเป็นคนเกรด A แล้วก็รู้สึกว่าตนเองนั้นถูกเอาเปรียบจากบริษัท IT Consult เพราะพวกเขาไม่ได้รับผลตอบแทนอย่างที่พวกเขาควรได้

สิ่งที่พวกเขาทำก็คือการลาออกไปเป็น IT Freelance แล้วย้อนกลับมาเซ็นสัญญาเพื่อรับงานจากบริษัท IT Consult เดิมที่ตัวเองเคยทำงานด้วย (เอ๊า ไหงเป็นงั้น) แบบนี้มันทำให้เขาต่อรองอะไรได้มากขึ้น แต่ก็ต้องทำให้ได้อย่างที่ตัวเองเรียกร้องผลตอบแทนด้วย

IT Freelance พอมีโครงการก็มักนิยมรวมหัวกันทำงานด้วยกัน พอโครงการจบก็แยกย้ายกันไปรวมหัวทำงานกับอีกโครงการนึง เป็นวัฐจักรวนเวียนไปเรื่อย ๆ ลักษณะเหมือนพวกดาราที่ถ่ายละครกองโน้นทีกองนี้ที

ส่วนใหญ่แล้ว IT Freelance บางคนจะตั้งเป็นบริษัท แต่เอาเข้าจริงแล้วเจ้าของบริษัทนั่นแหล่ะ ก็มักจะลงมือทำด้วยตัวเอง เพราะว่าเก่งอยู่คนเดียวในบริษัท

คนที่เป็น IT Freelance มักขาดจิตวิญญาณในการเป็นเจ้าของกิจการ ไม่นิยมบริหารทรัพยากรบุคคลระดับเกรด A ไว้กับตนเอง เพราะรู้อยู่เต็มอกว่า IT Freelance เกรด A จะไม่อยู่กับตัวเองนาน ทำไมรู้? ก็เพราะตัวเองก็เป็นคนเกรด A เหมือนกัน (หมายถึง IT Freelance นะ ไม่ได้หมายถึงผม ผมเป็นคนเกรด D+ ครับ :-P)

IT Freelance จึงเปรียบได้กับจอมยุทธฝีมือเลิศ ซึ่งมีอยู่มากมายในยุทธภพ พวกเขาท่องเที่ยวไปทั่ว แต่กลับไม่ยอมรับใช้ราชสำนัก จนราชสำนักมีแต่จอมยุทธฝีมือชั้นสองอยู่เต็มไปหมดนั่นเอง

[tags]freelance,consult,ซอฟต์แวร์,คอมพิวเตอร์,การจัดการ[/tags]

Related Posts

10 thoughts on “Freelance

  1. Freelace เกรด F ก็มีอยู่เต้มตลาดครับ
    ผมว่าการให้เกรดเรื่องผีมือไม่พอ ต้องดู commitment ด้วย
    บางคนเก่งมากๆย่อมมีคนแย่งตัว พอได้งานใหม่ดีกว่า ทิ้งงานเดิมซะงั้น…

  2. ผมว่ามันก็เป็นงานที่น่าสนใจนะครับ รายได้ดีแถมมีความเสี่ยงนิดๆ ท้าทายดีเหมือนกัน อิๆ ส่วนเรื่อง commitment เนี่ย ผมว่าก็เป็นส่วนที่สำคัญมากๆ

  3. freeland เมื่อรับงานมาแล้ว จะยากหรือจะถูก น่าจะทำให้จบ project นั้น ๆ ก่อนนะครับตามความคิดของผม น้อยคนนักที่จะปฎิเสธเงินที่มากกว่า และอาจเป็นงานที่สบายกว่า แต่มันทำให้คนเรามีหลากหลายแบบครับ ต่างจิตต่างใจ สุดท้ายคุ้มหรือไม่คุ้ม เมื่อเราตกลงรับงานแล้ว เราก็น่าจะทำให้มันเสร็จก่อน เอาเงินเป็นตัวหลักในการทำงานมันก็ไม่ได้ดีเสมอไปนะครับ ทุกครั้งที่เรางานนอก หรือทำงานในบริษัท น่าจะมี จรรยาบรรณ + ความซื่อสัตย์ ด้วยนะครับ programmer ทั้งหลาย ……….ถ้าผมเป็นคนจ้างงาน เก่งขนาดเทพผมก็ไม่มองครับ ถ้าเป็นคนแบบนี้

  4. เห็นด้วยครับจะยากหรือจะถูกอย่างไรก็ต้องทำ Project ให้จบ จรรยาบรรณ สำคัญมาก (ทุกสาขาอาชีพ)

  5. ย่อหน้าสุดท้ายเห็นภาพสุดๆ เลยครับ
    ส่วนมากราชสำนักมักเป็นผู้ร้ายซะด้วยสิ พูดแล้วนึกถึงเล็กเซี่ยวหงส์

  6. ทุกท่าน – 😛 พวกเรามาเป็น Freelance กันบ้างดีมั้ย … แต่ผมสงสัยว่าผมจะอดตายคนแรกอ่ะดิ อูยยย ทนงานหนักไม่ไหวอ่ะ T-T

  7. ตามประสบการณ์การพยายามหาคน…คนที่ฝีมือเข้าตาหายากมาก เจอแต่พวก coder จริง ๆ เป็นได้แค่ล่ามภาษาคนกับภาษาคอม และ run ได้แปลว่าเสร็จ ไม่เคยนึกเลยว่า ฉันจะ scale โปรแกรมฉันอย่างไร ฉันจะ document code ฉันอย่างไร โปรแกรมฉัน secure และ fool proof และ ใช้ง่ายหรือยัง หรือยังอะไรแบบนี้

  8. งานนอกผมต้องมีสามไม่คับ ไม่รีบ ไม่ถูกเอาเปรียบ ไม่กินเวลางานประจำ เพราะผมถือว่าเป็นค่าขนม

    หลังๆ เจอแต่ งานรีบ ราคาไม่ดี แุถมต้องให้ลางานไปทำระบบให้อีก เลยไม่รับซะงั้น เลยไม่ค่อยมีค่าขนมซักเท่าไหร่ อิอิ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *