สิบกว่าปีก่อนเคยเจอเรื่องขำไม่ออกเรื่องนึง เป็นเรื่องของความไม่รู้เท่าทันในเทคโนโลยี … เรื่องมีอยู่ว่า …

ผมทำงานอยู่ในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ทำงานอยู่ในตำแหน่งโปรแกรมเมอร์กิ๊กก๊อก มีหน้าที่ดูแลโปรแกรมคอมพิวเตอร์ทั่ว ๆ ไป อยู่มาวันหนึ่ง กรรมการผู้จัดการบริษัทก็มีความคิดจะจ้างบริษัทแห่งหนึ่ง ให้ช่วยพัฒนาซอฟต์แวร์ให้ โดยต้องการให้ซอฟต์แวร์ดังกล่าวมีคุณสมบัติคือ …

  1. อ่านบาร์โค้ดได้หลาย ๆ แบบ
  2. อ่านบาร์โค้ดแล้ว ให้ค่าจากบาร์โค้ด กระเด้งพรวดเข้าไปในช่องกรอกข้อมูล
  3. เมื่อค่ากระเด้งเข้าไปในช่องกรอกข้อมูลแล้ว ให้เคอร์เซอร์กระโดดไปยังช่้องข้อมูลถัดไปได้

ทางนั้นหลังจากรับความต้องการแล้ว ก็กลับไปดีดลูกคิดรางแก้ว แล้วก็กลับมาเสนอราคาที่ประมาณ 50,000 บาท!!!

หุ ๆ สมัยก่อนเงินมันใหญ่นะขอบอก ราคาเท่านี้นี่มันดาวน์บ้านได้เลยนะเฟ้ย อีกอย่าง เมื่อสิบกว่าปีก่อน เครื่องอ่านบาร์โค้ดเป็นอะไรที่ใหม่มาก ๆ มันเป็นอุปกรณ์นำเข้าข้อมูลที่ไม่คุ้นเคย เช่นเดียวกับ “เมาส์” ที่พวกเราเองก็ไม่ค่อยคุ้นเคยเหมือนกัน แต่ยังไงเราก็รู้อะไรเกี่ยวกับการเขียนซอฟต์แวร์ควบคุมเมาส์บ้าง เพราะยังมีเอกสารที่อธิบายว่า ถ้าเราจะควบคุมเมาส์ เราต้องใช้ Software Interrupt หมายเลข บลา ๆ ๆ ๆ ๆ เพื่ออ่านตำแหน่งเมาส์, อ่านการคลิกเมาส์, อ่านการดับเบิ้ลคลิกเมาส์ ฯลฯ

กรรมการผู้จัดการเองก็เป็นคนสายคอมพิวเตอร์ ก็คงจะคิดคล้าย ๆ ผมว่า ไอ้เจ้าเครื่องอ่านบาร์โค้ดก็คงเขียนโปรแกรมควบคุมยากพอ ๆ กับเมาส์เหมือนกัน คงต้องมีการทำ Software Interrupt วุ่นวาย แถมยังต้องถอดรหัสบาร์โค้ดได้หลาย ๆ แบบอีกต่างหาก อัลกอริธึมต้องสุดยอดโคตร ๆ เลย ประมาณนั้น!!!

แต่ก็คิดไม่ถึงเลยว่าแม้แต่กรรมผู้จัดการซึ่งเป็นคนสายคอมพิวเตอร์ก็ยังโดนต้ม (นึกว่ารู้มากกว่าเรา) T-T

สาเหตุที่โดนต้มก็เป็นเพราะว่า บริษัทซอฟต์แวร์ดังกล่าวได้อ้างว่า ที่ต้องคิดค่าซอฟต์แวร์ราคาแพง เพราะต้องเขียนโปรแกรมเพื่อควบคุมเครื่องอ่านบาร์โค้ด แบบว่าเครื่องอ่านบาร์โค้ดมันคุมยากมัก ต้องเขียนโปรแกรมอย่างสลับซับซ้อน ต้องทำให้มันรู้จักบาร์โค้ดหลาย ๆ รหัส อีกทั้งยังต้องเชื่อมต่อเข้ากับซอฟต์แวร์ตัวเดิม ซึ่งบริษัท (ที่ผมทำงานอยู่) ใช้งานอยู่ก่อนแล้ว!!!

และแล้ว วันกิ้งกือหกคะเมนก็มาถึง เพราะวันนั้นผู้ใช้งานทำโปรแกรมแฮงค์แล้วก็หลุดออกมาที่ Shell Prompt แต่ผู้ใช้งานไม่รู้ตัว เพราะกำลังยิงบาร์โค้ดเพลิน หันกลับมาดูอีกที เลยต้องโทรศัพท์วุ่นวายให้พวกเราไปช่วยดูโปรแกรมกันใหญ่!!!

ตรวจไปตรวจมาถึงมารู้ทีหลังว่า เครื่องอ่านบาร์โค้ดมันไม่มีอะไรเลยนี่หว่า มันทำงานเหมือนแป้นพิมพ์เปี๊ยบเลย แล้วบริษัทซอฟต์แวร์มันคิดราคาตั้ง 50,000 บาทได้ยังไงวะเนี่ย นี่มัน Hardware Interrupt ชัด ๆ!!!

หลังจากนั้นผมไม่รู้ว่ากรรมการผู้จัดการไปทำไงต่อนะ รู้แต่ว่า ไอ้อะไรที่เราคิดว่ามันยาก แต่มันกลับง่าย แต่ไอ้อะไรที่เราคิดว่าง่าย มันกลับยากซะนี่!!

[tags]กิ้งกือ,หกคะเมน[/tags]

Related Posts

5 thoughts on “กิ้งกือหกคะเมน

  1. อย่าว่าแต่พี่ไท้เลยครับ

    ผมเองยังเพิ่งรู้เมื่อ 2-3 ปีมานี้เอง ว่า barcode reader มันก็คือ keyboard นั่นแหละ 😀

  2. ตอนนี้มีอะไรใหม่ๆ ให้เราเอาไปต้มลูกค้าได้บ้างเนี่ย บทความหน้าจัดมาเลยพี่ไท้ 😀

  3. ประสบการณ์โดนหลอกแบบนี้ ไม่เอาอ่ะคุณ figaro T-T

    อ๊ะจริงดิคุณ AMp โห ๆ

    ไม่เอาอ่ะคุณ crucifier มันบาป T-T

    ใช่ ๆ คุณ Shoot แล้วบางที อะไรที่มันดูโคตรจากยาก มันกลับยากโคตร ๆ ก็มี 😛

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *