เพื่อนผมบอกกับผมว่าที่ฟอร์จูนรัชดามีภาพยนต์เก่า, ละครเก่าและซีรี่ย์เก่า ๆ วางขายอยู่มากมายครับ และที่สำคัญถูกบรรจุเอาไว้ในรูปของ DVD ซะด้วย ซึ่งผมฟังแล้วก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก เพราะผมอยากจะได้ของเก่า ๆ พวกนี้มาสะสมเอาไว้ เนื่องจากว่าที่ผ่านมาไม่เคยได้ดูหรือดูแล้วไม่ปะติดปะต่อเลย ก็เลยคิดว่าซื้อมาค่อย ๆ ดูดีกว่าจะได้เก็บรายละเอียดได้อย่างครบถ้วน

มีซีรี่ย์ฝรั่งเก่า ๆ หลายเรื่องครับที่ผมอยากได้ ซึ่งมีอยู่เรื่องนึงที่ตอนนี้ก็ยังอยากได้อยู่นั่นก็คือ StarGate SG1 ซึ่งเป็นซีรี่ย์ฝรั่งที่ถูกนำมาฉายที่ช่องสามเมื่อสิบกว่าปีก่อน ผมชอบเรื่องนี้มากแต่บังเอิญว่าไม่ค่อยได้ดูปะติดปะต่อเท่าไหร่ ด้วยเหตุเพราะอำนาจในการกำหนดช่องดูทีวีไม่ได้อยู่ในมือผม (ผมเป็นลูกคนโตก็จริง แต่ผมมีอำนาจน้อยที่สุดครับ เศร้า T-T)

ถ้าใครไม่เคยได้ดูมาก่อน ขอเล่าย่อ ๆ ว่าเนื้อเรื่องของซีรี่ย์นี้ถูกผูกพันยึดโยงอยู่กับสิ่งประดิษฐ์ที่เรียกว่า StarGate ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นประตูมิติ ที่จะเปิดเพื่อให้สิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิตสามารถเคลื่อนผ่านระหว่างดาวเคราะห์ได้ในพริบตา โดย StarGate นั้นเป็นสิ่งประดิษฐ์จากฝีมือของสิ่งมีชีวิตที่ทรงภูมิปัญญาที่สุดในดาราจักรทางช้างเผือกของเรา

ตามท้องเรื่องบอกเอาไว้ว่า StarGate มีมากมายกระจายอยู่ในดาวเคราะห์ทั่วทั้งดาราจักรทางช้างเผือกและดาราจักรอื่น ๆ และในโลกของเราก็มีอยู่หนึ่งเครื่อง ซึ่งบังเอิ๊ญบังเอิญที่มันตกอยู่ในมือของกองทัพสหรัฐอเมริกา และรัฐบาลสหรัฐอเมริกาก็ได้รับรู้จากข้อมูลลับสุดยอดว่า โลกของเรากำลังจะถูกบุกรุกโดยสิ่งมีชีวิตต่างดาวอันทรงภูมิปัญญา (แต่ดุร้าย) จึงจำเป็นต้องใช้ StarGate เพื่อเดินทางไปยังดวงดาวต่าง ๆ เพื่อค้นหาวิธีในการป้องกันอันตรายดังกล่าว

จินตนาการในเรื่อง StarGate SG1 เหนือล้ำมาก และที่สำคัญมีเรื่องที่พัวพันกับคอมพิวเตอร์เยอะซะด้วย อือม แบบว่าเยอะมากจนจาระไนไม่หมด ผมก็เลยจะเลือกประเด็นบางอย่างที่คนทั่วไปที่เคยได้ดูอาจจะมองข้าม มาโม้ให้พวกเราอ่านกันดีกว่า

ประเด็นแรก การหมุน StarGate เพื่อเปิดประตูมิติ

การเปิด StarGate ก็เหมือนกับการเปิดประตูทั่ว ๆ ไป นั่นก็คือถ้ามี “ประตู” ก็ต้องมี “กลอนประตู” โดยกลอนประตูที่ว่าก็เป็นแบบภาพด้านขวา เป็นกลอนประตูแบบพิศดาร เพราะถูกแทนที่ด้วยสัญลักษณ์แปลก ๆ เต็มไปหมด

เทคโนโลยีของ StarGate เหนือล้ำมาก ดังนั้นวิธีในการเปิดมันจึงไม่ใช่ธรรมดา เพราะต้องมีความทรงจำเกี่ยวกับพิกัดที่แม่นยำมาก เนื่องจากต้องแทนด้วยสัญลักษณ์ต่าง ๆ เพื่ออ้างอิงถึงตำแหน่งของดาวเคราะห์ปลายทางที่ต้องการจะไป ดังนั้นด้วยสมองน้อย ๆ ของมนุษย์เรา คงจะไม่สามารถเก็บความทรงจำอันมหาศาลเกี่ยวกับการเข้ารหัสตำแหน่งดาวเคราะห์และการคำนวณพิกัดของดาวเคราะห์ได้แน่ ๆ ซึ่งมันก็เลยกลายเป็นธุระของคอมพิวเตอร์ ที่จะต้องเป็นผู้จดจำและคำนวณให้แทน

ประเด็นที่ผมจะโม้ก็คือ ผมรู้สึกว่าการหมุนเพื่อให้ StarGate เปิดไปยังตำแหน่งที่ต้องการได้นั้น มันเป็นอัลกอริทึมที่เหมือนกับการอ้างอิงหน่วยความจำในคอมพิวเตอร์เลยอ่ะ เพียงแต่หน่วยความจำในปัจจุบันนี้ ถูกอ้างอิงในแบบ page segmentation เท่านั้นเอง ซึ่งถือว่ายังอ้างอิงแค่ 3 มิติ ยังเบาะ ๆ ไม่โหดเท่าการหมุนเพื่อเปิด StarGate

ประเด็นสอง ความรู้อันเป็นนิรันดร์

ในเรื่องเน้นเรื่องเทคโนโลยีและการแสวงหาความรู้เป็นอย่างมากครับ และก็มีอยู่ตอนนึงที่ผมค่อนข้างสนใจเป็นพิเศษ เพราะมันคล้ายกับใน Battlefield Earth มากเลย นั่นก็คือ “การถ่ายเทความรู้เข้าสมองแบบโดยตรงฉับพลัน”

เทคโนโลยีการถ่ายเทความรู้ใน Battlefield Earth นั้น ต้องอาศัยเวลาในการถ่ายเทเป็นวัน ๆ แต่ของ StarGate เจ๋งโคตร ๆ กว่า เพราะสามารถถ่ายเทความรู้อันมหาศาลโป้งเดียวได้ในเสี้ยววินาที แถมยังช่วยจัดเรียงเซลสมองให้ด้วย เพื่อให้เซลสมองไม่เสียหายจากการที่ต้องรับความรู้อันมหาศาลแบบนั้น

ในเรื่องบอกว่าเผ่าพันธุ์ที่ทรงภูมิปัญญาที่สุดในดาราจักรทางช้างเผือก ไม่ต้องการให้ความรู้ของตนสูญหายไป ต้องการให้ความรู้สามารถแบ่งปันได้ จึงสร้างสิ่งประดิษฐ์ไฮเทคขึ้นมา เพื่อเอาไว้เก็บความรู้อันเป็นนิรันดร์ของตนไว้ อีกทั้งยังสามารถ่ายทอดได้อย่างฉับพลันทันทีด้วย

ซึ่งประเด็นที่ผมจะโม้ก็คือ ผมจำได้คร่าว ๆ ว่าเผ่าพันธุ์ที่ทรงภูมิปัญญาดังกล่าวนั้น ทุกคนเกิดขึ้นมาโดยตรัสรู้ได้โดยตนเองเฉกเช่นพระพุทธเจ้าในศาสนาพุทธ โอ้แม่จ้าว ทุกคนตรัสรู้ได้เองตั้งแต่เกิดแล้วความรู้ที่มีมันจะมากมายแค่ไหนล่ะเนี่ย???

ประเด็นสุดท้าย การแย่งชิงความรูู้้

ปัจจุบันเราแก่งแย่งกันเพื่อให้ได้เงินตราใช่มั้ยครับ เราแก่งแย่งกันก็เพราะเราเชื่อถือในเงินตราว่ามันจะช่วยให้เราอยู่อย่างสุขสบายได้ ที่ทุกวันนี้มีเรื่องกันอยู่ทุกวี่ทุกวันก็เพราะเรื่องเงิน

แต่ในเรื่อง StarGate ทุกเผ่าพันธุ์แก่งแย่งความรู้กันครับ พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้เผ่าพันธุ์ของตนมีความรู้มากที่สุด บางเผ่าพันธุ์ซึ่งความรู้น้อยกว่าก็พยายามที่จะฝืนศึกษาความรู้ของเผ่าพันธุ์ที่เหนือกว่า ถึงแม้ความรู้บางอย่างอาจจะไม่เหมาะกับตัวเองก็ตาม

ผมชอบตอนนึงมาก มันเป็นตอนที่เผ่าพันธุ์เอเลี่ยนเผ่าพันธุ์หนึ่ง ได้ค้นพบสิ่งประดิษฐ์ไฮเทคซึ่งเก็บความรู้อันเป็นนิรันดร์เอาไว้ แต่พยายามเท่าไหร่ก็ใช้สิ่งประดิษฐ์ไฮเทคดังกล่าวไม่ได้ซักที ก็เลยตัดสินใจถ่ายโอนความรู้จากสิ่งประดิษฐ์ไฮเทคดังกล่าว มาไว้ในคอมพิวเตอร์ของตนเอง โดยโอนมาได้เท่าที่คอมพิวเตอร์ของตนเองจะรับไหว

ผมสนใจมาก เพราะประเด็นก็คือ ผมเคยแต่ทำโครงการเพื่อย้ายข้อมูลหรือความรู้จากระบบซอฟต์แวร์เก่าไปยังระบบซอฟต์แวร์ที่ใหม่กว่า แต่ไม่เคยเลยนะ ที่จะย้ายข้อมูลหรือความรู้จากระบบที่ใหม่กว่าไปยังระบบที่เก่ากว่าเลย

มันคงจะเหมือนคนที่กระหายน้ำ อยากจะดื่มน้ำกระมัง ที่ยินดีจะใช้กะลามะพร้าวผ่าซีกของตนเอง รองน้ำที่ซึมจากท่อที่ต่อไปยังแทงค์น้ำไฮเทค ด้วยเหตุเพราะจนด้วยเกล้า ไม่รู้วิธีว่าจะทำยังไงเพื่อจะให้แทงค์น้ำดังกล่าวเปิดออกมา เพื่อให้ตัวเองได้ดื่มน้ำได้เหมือนที่ผู้ทรงภูมิปัญญาทั้งหลายเขาทำกัน

ความรู้ คือ อำนาจ (จริงจริ๊ง)

ป.ล. นอกจากอยากจะได้ StarGate SG1 มาไว้สะสมแล้ว ผมยังอยากจะได้ซีรีย์เรื่อง “แมคไกเวอร์” มาสะสมด้วย ก็หวังว่าวันไหนว่าง ๆ จะได้ไปซะที ไอ้เจ้าฟอร์จูนเนี่ย ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยไปเลย ฮา

[tags]stargate,ฝ่ามิติ,ทะลุ,จักรวาล,คอมพิวเตอร์,เทคโนโลยี,ละคร,ซีรี่ย์[/tags]

Related Posts

10 thoughts on “StarGate ฝ่ามิติทะลุจักรวาล

  1. สมัยก่อนก็ดูไม่ปะติดปะต่อเหมือนกันแฮะ แต่เมื่อปีที่แล้วก็ไปเจอให้ดาวโหลดแบบครบเซ็ทเลย เอามาหมดทั้ง 10 ภาค(episode) เลย กว่าจะดูจบเล่นไปเป็นเดือน T T (+ 4 ภาคใหม่ atlantis ที่เปลี่ยนประตูให้ hi-tech ขึ้น ที่ยังไม่ได้ดู แล้ว + หาโหลดไม่ได้)
    รู้สึกเป็นซีรี่ที่อยู่ได้ยืนยาวที่สุดเลย เท่าที่รู้มา (ยังไม่เคยเห็นหนังซีรี่ฝรั่งเรื่องไหนอยู่ได้มากกว่า สิบปีอย่างนี้เลย)

  2. ผมว่าตอนช่วงหลังของ SG-1 นั้นขาดมิติไปเยอะเลย สุดท้ายเนื้อหาที่วางไว้ในช่วงแรกๆถูกทำลายหมด และก็ถูกตัดจบที่ season 10

    ส่วน Atlantis ที่เป็นภาคขนานผมก็ว่าสู้ SG-1 ไม่ได้แม้แต่น้อย หวังว่าภาคที่กำลังจะผลิตใหม่เร็วๆนี้จะดีขึ้นครับ

  3. โอ้ ย้อนหลังกลับไปนานมาก เหมือนจะเคยได้เห็นบแบบผ่านๆ นะครับ แต่ม่ายรุ้เนื้อเรื่องหรอก

    ขอบคุณที่แฉซะยาวเชียว

  4. ตอนนี้ผมก็คิดว่าเจ๋งเหมือนกันครับคุณ bin อิ อิ

    ผมว่าเรื่องนี้ดีนะคุณ natvoy จินตนาการเขาล้ำยุคดี

    อ๋าจริงเหรอครับคุณ ABZee ผมเองก็เคยได้ดูแต่ช่วงแรกเหมือนกัน ยิ่ง Atlantis นี่ผมยิ่งไม่เคยดูเลย

    ผมว่าพี่สรรค์เขียนใส่ดีวีดีแล้วส่งมาให้ผมดีกว่าครับ จะเป็นพระคุณอย่างสูงเลยอ่ะ ผมขี้เกียจเสียแบนด์วิทธิ์โหลดบิตเองเด้อ

    อ้าว ตกลงช่องเจ็ดเหรอครับ งั้นขออภัยครับข้อมูลผิด

    ผมกลับนึกถึง Battlefield Earth แฮะ งั้นถือว่านึกกันคนล่ะอย่างกันเน้อะคุณ kong

    555 คุณ Pat แซวผม

  5. เคยฉายทั้งทางช่อง 3 และช่อง7 เลยครับ ถ้ามี แมคไกเวอร์ อย่าลืมบอกนะครับ ผมชอบมาก เป้นแรงบันดาลให้อยากเรียน วิทยาศาสตร์ และวิศวเลยครับ เพราะอยากเก่งแบบเขาบ้าง ตอนนั้นอยากได้มีดพับแบบนั้นสุดๆ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *