ช่วงนี้เศรษฐกิจกำลังฟื้น สัญญาณหลาย ๆ อย่างมันก็เลยถูกส่งออกมา และที่เห็นเด่นชัดที่สุดก็คงจะเป็น การทะยานขึ้นของดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

พฤติกรรมของตลาดหุ้นไทยเดาไม่ยาก จำไว้หลักง่าย ๆ ก็คือ … เวลา SET ขึ้น หุ้นจะค่อย ๆ ขึ้นตามหลัง SET (อย่างระมัดระวัง) … แต่เวลา SET ลง หุ้นจะตะบี้ตะบันแข่งกันลงแซงหน้า SET แบบไม่เห็นฝุ่นกันเลยทีเดียว!!!

บางคนอาจจะเข้าใจว่าถ้าเราอยู่ในวงการไอที เราก็ควรซื้อหุ้นไอทีซึ่งอยู่ในตลาดหุ้นสิถึงจะถูก เพราะเราน่ะเข้าใจธุรกิจไอทีเป็นที่ซู้ด (จริงดิ?) แต่เรื่องจริงก็คือ เราเข้าใจมันจริง ๆ หรือเปล่า?

งั้นเพื่อให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น ก็ขอโม้ให้อ่านกันดีกว่า ว่าความเข้าใจที่ถูกต้องนั้นควรจะเป็นยังไง!

1. อิงกับนวัตกรรม

ธุรกิจไอทีเป็นธุรกิจที่ต้องก้าวให้ทันตามนวัตกรรมต่าง ๆ จึงจำเป็นที่จะต้องจ่ายให้กับการได้มาซึ่งนวัตกรรมใหม่ ๆ รวมถึงต้องจ่ายเพื่อให้คนในองค์กรมีความรู้ในนวัตกรรมใหม่ ๆ อีกด้วย เรียกว่าจ่ายได้จ่ายดี มีตังค์เท่าไหร่ก็ต้องตั้งงบประมาณเพื่อจ่ายกันไป ซึ่งนั่นก็หมายความว่า องค์กรจะเกิดค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น แล้วพาลทำให้กำไรสุทธิน้อยลง และก็ทำให้จ่ายปันผลได้น้อยลงตามไปด้วย นี่ยังไม่นับรวมถึงการที่ต้องค่อย ๆ สูญเสียเงินสำรองที่เก็บเอาไว้ เพื่อนำไปใช้ชดเชยในกรณีที่ค่าใช้จ่ายเกินเส้นสีแดงที่ขีดเอาไว้อีกต่างหาก!!!

2. อิงกับการรับเหมา

ถ้าเรามีเวลาว่าง ๆ แล้วเอางบการเงินของบริษัทไอที ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหุ้นมาค่อย ๆ ไล่ดู เราก็จะพบว่าบริษัทเหล่านั้นส่วนใหญ่แล้ว ล้วนมีรายได้หลักมาจากการรับเหมาทำงานทั้งนั้น (ส่วนจะรับเหมาทำงานให้รัฐ หรือรับเหมาทำงานให้เอกชน นั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง) และถึงจะมีหลายบริษัทที่พยายามจะหารายได้ทางอื่น มันก็ยังเป็นสัดส่วนของรายได้ที่น้อยอยู่ดีเมื่อเทียบกับรายได้ทั้งหมด!

บางบริษัทถึงขนาดกำหนดนโยบายเน้นรับเหมางานรัฐ เพราะถึงแม้จะจ่ายช้า แต่ยังไงก็จ่ายชัวร์ไม่มีเบี้ยว ไม่ต้องมาขึ้นโรงขึ้นศาลให้เสียเวลา หรือถ้าต้องขึ้นศาลจริง ๆ โอกาสชนะก็มีสูง แต่ถ้าวันดีคืนดีภาครัฐเกิดถังแตกขึ้นมา ก็ต้องอด ๆ อยาก ๆ กินแกลบกันไปตาม ๆ กัน

3. ค่าการตลาดต่ำ

เป็นเพราะธุรกิจของบริษัทไอทีในตลาดหุ้น มักจะเน้นที่การรับเหมา (โดยเฉพาะรับเหมากับภาครัฐ) ทำให้ไม่สามารถจะกำหนดราคาให้สูงโอเวอร์ได้ (ไม่งั้นภาครัฐก็ไม่เลือก) เมื่อกำหนดราคาให้สูงไม่ได้ บวกกับการมีค่าใช้จ่ายในนวัตกรรม รวมถึงค่าแรงของบุคลากรสายไอทีระดับเทพ ที่แพงโคตร ๆ ขึ้นทุกวี่ทุกวัน มันก็เลยทำให้กำไรสุทธิไม่สวยเอาซะเลย

ดังนั้น ในความเห็นส่วนตัวของผม ผมคิดว่า หากผมสนใจที่จะลงทุนในหุ้นของบริษัทไอทีรายใดในตลาดฯ บริษัทดังกล่าวควรจะมีคุณสมบัติพิเศษอย่างหนึ่งนั่นก็คือ การมีแผนธุรกิจที่จะเสกความว่างเปล่าให้กลายเป็นรายได้ ๆ นั่นเอง

[tags]หุ้น, กลุ่ม, ไอที, ลงทุน[/tags]

Related Posts

5 thoughts on “หุ้นกลุ่มไอที

  1. เซ็งตัวเองฟ่ะ

    ตอน 900 กดซื้อไม่ยั้ง
    แต่ตอน 300 ดันไม่ซื้อ

    แง่มมมม – -*

    ป.ล. ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ entry เล้ยยย 😛

  2. พูดถึงเกมอ่ะดิคุณ AMp?

    ตังค์เป็นของรัฐบาลครับคุณ figaro รัฐบาลเป็นประกัน อิ อิ 😛

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *