พอดีวันนี้ผมต้องรีโมตเข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์ของที่ทำงาน ก็เลยนึกขึ้นได้ว่าไม่เคยเล่าเรื่อง SAP ให้อ่านกันเลย ก็เลยว่า เล่าให้อ่านกันซะหน่อยดีกว่า

สำหรับคนที่เขียนซอฟต์แวร์ บางครั้งก็ต้องตระหนักอย่างหนึ่งว่า ไม่ใช่เรานึกอยากจะเขียนภาษาคอมพิวเตอร์ภาษาไหน เราก็ไปดาวน์โหลดตัวแปลภาษามา ดาวน์โหลดตัว IDE มา แล้วก็ลองได้เสมอไป มันมีบางภาษาที่เราอยากจะลองมัน เราก็ไม่มีโอกาสได้ลอง เพราะซอฟต์แวร์เพื่อแปลภาษาดังกล่าว มันไม่ได้ดาวน์โหลดกันได้ง่าย ๆ มันแพง มันมีราคาของมัน

เหมือนอย่างกับ SAP ก็เหมือนกัน มันเป็นระบบซอฟต์แวร์ Enterpise Resource Planning มันเป็นซอฟต์แวร์ตัวใหญ่มาก ราคามันก็แพง อีกทั้งการเขียนซอฟต์แวร์เพื่อควบคุมมันได้ คนผู้นั้นก็ต้องรู้กลไกอะไรหลาย ๆ อย่างใน SAP อีกทั้งก็ต้องรู้ไวยากรณ์และวากยสัมพันธ์ของภาษา ABAP ซึ่งเป็นภาษาที่ใช้ควบคุมมันอีกด้วย

หน้าจอเข้าใช้ SAP

ข้างบนเป็นหน้าจอเพื่อล็อกอินเข้าใช้ระบบ SAP ผมเห็นครั้งแรกยังสบถเลยว่า ทำไมหน้าจอมันเห่ยอย่างนี้วะ?

พอเราล็อกอินเข้าระบบแล้ว เราก็จะได้เห็นเมนูแบบภาพข้างล่าง มันเป็นเมนูแบบต้นไม้ ยิ่งกดยิ่งลึก มีโปรแกรมอยู่ในนั้นเต็มไปหมด ถ้าไม่เคยเรียนมาก่อน หลงทางตายเลย

เมนูของ SAP

การจะเขียน ABAP เพื่อควบคุม SAP ได้นั้น มันต้องเข้าไปยัง IDE ของมันซึ่งเรียกว่า ABAP Editor เห็นครั้งแรกก็รู้สึกว่ามันเห่ยอ่ะ

ABAP Editor

โปรแกรมส่วนใหญ่จะถูกตั้งชื่อเอาไว้ให้มันสอดคล้องกับโมดูล ส่วนใหญ่แล้วโปรแกรมที่เขียนเองใหม่ขึ้นมา เขา (เขาไหนวะ?) จะเรียกว่า Customized Program ทีนี้มาดูโครงสร้างภาษา ABAP กันตามภาพข้างล่าง

ภาษา ABAP

จะเห็นว่าภาษา ABAP เป็นภาษาที่ดูแล้วไม่ค่อยจะรู้เรื่องเท่าไหร่ เหมือนพวก Cobol กลายพันธุ์อะไรประมาณนั้น แถมถ้าเราไม่เจนจัดในกลไกของ SAP และ Data Dictionary ซึ่งมีเป็นหมื่น ๆ ตัวในนั้น ประกอบกับเราจะทำอะไรซักอย่างนึง เราก็ต้องเรียกใช้ Function มาตรฐานที่ SAP กำหนดเอาไว้ ซึ่งมันมีเยอะมาก แบบว่าเอา Java Class Library กับ .NET Framework มารวมกัน ยังไม่เยอะเว่อร์อย่างมันเลย

การจะเรียนภาษา ABAP นั้นมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง แค่จะเรียนภาษา ABAP เบื้องต้นก็ต้องเสียอย่างน้อยสองแสนบาทแล้ว ยังดีเป็นสองแสนบาทสำหรับหลายคน ถ้าเป็นสำหรับคนเดียวคงสยองน่าดู

เท่าที่รู้มาคนที่เชี่ยวชาญ SAP และ ABAP จะมีค่าตัวที่แพงมาก บางคนทนความแพงของค่าตัวของตัวเองไม่ไหว ก็เลยเปิดบริษัทเพื่อรับงานซะเลย คือมันโดนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาไปเยอะไง เพราะภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจะคิดจากรายได้ตรง ๆ เลย ในขณะที่ภาษีเงินได้นิติบุคคลจะคิดจากกำไรสุทธิ พอได้เงินมาเยอะก็เลยทนภาษีไม่ไหวไปโดยปริยาย เลยต้องแปลงร่างเป็นนิติบุคคลไป

โดยสรุปแล้วมันก็ไม่ใช่ทุกคนหรอกครับ ที่จะเก่งในภาษาคอมพิวเตอร์ทุกภาษาน่ะ ไงก็เลือก ๆ เอาแล้วกันครับ ว่าชอบแบบไหนกัน ^o^

[tags]SAP,ABAP,ERP,คอมพิวเตอร์,ซอฟต์แวร์[/tags]

Related Posts

21 thoughts on “เคยใช้ SAP กันมั๊ย?

  1. มันใช้อะไรง่ายๆ เล็กๆ กว่านี้หน่อยไม่ได้เหรอครับ พี่ไท้ไม่เห็นเล่าข้อดีของแซ่บให้ฟังเลย ว่าทำไมเขา (เขาไหนอีกล่ะ?) จึงเลือกใช้

  2. งั้นผมจะเล่าเรื่อง SAP ให้ทุกท่านอ่านในหัวข้อถัดไปครับ นึกว่ารู้กันแล้วทุกคนซะอีก T-T

  3. (ออกตัวก่อน, ไม่เคยใช้ SAP )
    ในสมัยแรกที่ SAP implement client ด้วย JAVA
    ตอนนั้นมี article show case อันหนึ่งออกมา ประมาณว่า
    ทืม SAP เอา Swing(ใน java) ไปใช้
    แล้ว implement Look and feel เอง
    (ประมาณพวก label แล้วก็มีขีดยาวๆ แบบหน้าจอ Login นั่นแหล่ะครับ)

    ตอนที่อ่านในสมัยนั้น เราก็จะเกิดความรู้สึกว่า
    หน้าจอ sap มันต้องสวยแน่นอน เพราะลงทุน customize look and feel เองแล้ว

    หลังจากเห็นหน้าจอที่ไม่ค่อยสวยแล้ว
    ก็นึกเอาเองว่า สงสัยเขา customize Look and Feel เพื่อ usability อย่างเดียวมั้ง

  4. ว่างๆพี่ไท้ช่วยเล่าข้อดีของSAPให้ฟังหนอ่ยอยากรู้ว่า
    มันวุ่นวายและซับซ้อนอย่า่งงี้ แล้วทำไมถึงยังเป็นพระเอกของโลกERPได้
    รบกวนหน่อยนะ่ครับ

    ปล.ภาษา ABAPหน้าตามันไม่ค่อยFriendly ไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย
    อิอิอิ

  5. จำได้ว่าพี่ pok จะทำโปรแกรม ERP ให้เหมือนกับ SAP ผมจำได้ ๆ

    ว่าจะเล่าในหัวข้อถัดไปอ่ะครับคุณ memtest

    เอ้อ ถามอะไรเนี่ยคุณ jellii._.pop._.ladii มาจากไหนเนี่ย งงเลย แต่ผมก็ตอบได้นะ วิธีเลิกเล่นฟิตเนตที่ California Wow Experience ก็คือ รอให้สัญญามันหมดครับ ก่อนจะหมดหนึ่งเดือน เราก็แจ้งความจำนงกับทางนั้น ว่าจะขอเลิกแล้วนะ แล้วเดือนสุดท้ายเราก็จะได้ไม่ต้องจ่ายค่าสมาชิก เพราะเขาจะเอาเงินมัดจำงวดแรกของเรามาหักเป็นค่าใช้จ่าย แล้วเราก็รอให้เขาส่งจดหมายยืนยันการยกเลิกสมาชิกมาให้เรา จุดสำคัญก็คือสัญญาทุกฉบับ ใบเสร็จทุกใบ และจดหมายยืนยันการยกเลิกสมาชิก ต้องเก็บไว้อย่างน้อย 5 ปี เพราะไม่รู้วันดีคืนดี เราจะโดน CaWow ฟ้องร้องเราว่าเราไม่ยอมจ่ายค่าสมาชิกเขา อะไรประมาณนั้น

  6. ไท้รู้ได้ไง, ผมเคยเขียนใน net ด้วยหรือ?
    ใช่แล้วหล่ะ, ผมมีเป้าอยากจะเขียนให้ได้ระดับนั้น
    รอบแรก fail ไปแล้ว
    เพราะไปเจอสิ่งที่เขาเรียกว่า “second design effect” (จากหนังสือ mytical man month)
    ซึ่งแปลง่ายๆ ว่า designer มีความอัดอั้นตั้นใจมาจาก project แรก
    พอได้ทำ project ที่สอง ก็เลยใส่ไม่ยั้ง
    ผลก็คือ scope ใหญ่เกินไป
    ไม่มีหลัก first thing first. หรือ ลำดับความสำคัญ
    กับอีกเรื่องที่ fail ก็คือ การเลือกใช้ Technology
    ผมไปใช้ j2ee ซึ่งสมัยนั้นมันยัง งุ่มง่าม เป็นเต่าล้านปีอยู่
    ทำให้การ deploy, testing cycle มันช้าเกินไป

    ส่วนรอบสอง กำลังสะสมไฟอยู่

  7. ผมไม่รู้หรอกนะครับว่าตกลงsapใช้ภาษาอะไรในการเขียนเพราะจบมาไม่เกี่ยวกับITและจบมานานแล้วแต่ตอนนี้ใช้sapอยู่มันมีข้อดีในการจัดการให้สอดคลองกับระบบLogisticอย่างที่ผมใช้คือหากมีผลได้ของสินค้าชนิดนั้นจึงจะทำการตัดstockและออกใบแจ้งหนี้ให้ลูกค้าได้ทางด้านsuplierก็จะรู้ว่าตอนนี้เราขาดอะไรและต้องการสินค้าอะไรจำนวนเท่าไหร่หากทำการจัดการให้ดีก็จะทำให้เราทำงานสอดคล้องแบบJITไปเลย(การบริหารงานแบบในฝันของนักบริหาร)พูดวกไปวนมาก้คงต้องบอกมันเริ่มบอกว่ามี
    1.การสั่งสินค้าเท่าไหร่
    2.ใครจะมารับสินค้า
    3.รับไปแล้วเหลือเท่าไหร่
    4.ต้องผลิดอะไรเพิ่ม
    มันทำให้เห้นตัวเลขทั้งหมดเป้นแบบrealtimesแต่ข้องเสียของมัน(หรือเป็นข้อดีของใครบางคน)หากไม่มีฝ่ายตรวจสอบมันสามารถโกงข้อมูลกันโดยการโอนตัวเลยจากsuplierเข้าstockเราก็ได้เพราะการตรวจนับมักจะอิงข้อมูลในsapเป็นหลักเพราะฉะนั้นอาจทำบรษัทขาดทุนย่อยยับก็ได้ถ้าไม่มีคนตรวจสอบที่เก่งๆ

  8. เคยใช้ที่บริษัท เดิม ครับ เเตะไม่ได้เลยครับ ขู่ทุกอย่าง เหมือนเราเป็น IT โง่ๆคนหนึ่งที่ได้เเต่นั่งมองเครื่อง User ถามตอบได้คำเดียวว่า เดี๋ยวถาม Consultant ให้ฟังเเล้ว IT ทั่วไปอยากใช้ทำไม่ ถามเพื่อนตอบเหมือนเราเลย อยู่กับมันมา 3 ปี ยังไม่รู้จักมันเลย เสียตั้งค์ ค่า MA ปีหนึ่งๆเป็นล้าน โอ้ย น่าเบื่อ IT คนไหนอยากใช้ ต้องเตรียมรับ ชะตานี้เลยครับ ย้ายมาอยู่อีกที่เพิ่ง Implement Movex M3 ยังImplement ไม่เสร็จ เราว่าเราได้เยอะเหมือนกัน เอ่อ หันมาทางนี้ดีกว่า

  9. แล้ว Movex ที่ ว่ากับ SAP มันต่างกันไหม ครับ ทั้งการใช้งานขนาดและราคาล่ะครับ พอทราบไหมครับ

  10. เป็น ERP เหมือนกันครับ ระดับเดียวกัน แต่ SAP เข้ากับทุกธุรกิจ แต่ Movex เน้นไปเรื่องการผลิต เพราะลูกเล่นในการผลิตถือว่าเยอะกว่า SAP มาก แต่กลับมาที่ บัญชี SAP เป็นต่อ อยู่แล้ว ก็มองละกันถ้าคุณคิดว่าบัญชีคุณสำคัญก็ซื้อ SAP แต่ถ้ามองผลิตหรือในส่วนโรงงานสำคัญก็ซื้อ Movex หรือสำคัญทั้งคู่ ก็เลือก 2 อย่างเลย อิอิ

    แต่ตอนนี้ที่บริษัท เลือก Movex เพราะเรามองว่าผลิตสำคัญ แต่ก่อนบัญชชีใช้ Accpac ยังทำงานได้ และตอนนี้เปลี่ยนเป็น ERP ซึ่งใหญ่กว่าทำไมจะทำไม่ได้

    ตอนที่เสนอเข้ามา SAP 7/11 ล้าน Movex 7.5/8 หมายถึงราคาLicense/Implement

  11. คงไม่มีปัญญาใช้ล่ะเกือบ 20 ล้าน ขายโรงงาน Implement กันดีกว่า
    แพงมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

  12. อยากได้ตัวอย่างหน้าจอรายงานของระบบ SAP เช่น รายงานสินค้าคงคลัง รายงานการจัดซื้อ ค่ะ

  13. SAP เคยแซวกันเล่นๆเมื่อหลายปีก่อน ว่าย่อมาจาก
    “Sorry After Purchase” ครับ แปลกันตรงๆก็คือ โทษทีว่ะ Implement ไม่จบ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *