คนเราบางทีน่าสงสารนะครับ พอมีทรัพย์สมบัติมาก ๆ เข้า ก็เป็นกังวลว่าเกิดปัจจุบันทันด่วนอะไรไป บุตรและบริวารจะตบตีแย่งชิงทรัพย์สมบัติกัน จนไม่เป็นอันทำมาหากินอะไรอย่างอื่น เมื่อคิดได้ดังนี้ ก็จึงจำเป็นที่จะต้องทำ “พินัยกรรม” ขึ้นมา เพื่อจัดสรรปันส่วนให้ยุติธรรม เกิดปุบปับไปที่ชอบที่ชอบแล้วจะได้สบายใจ ไม่ต้องห่วงอะไรอีก ปัจจุบันเราจะพบว่าไอ้อะไร ๆ ที่ออนไลน์มันเริ่มมีบทบาทมากขึ้น ธุรกรรมต่าง ๆ ตอนนี้เริ่มผันขึ้นมาอยู่บนอินเตอร์เน็ต แล้วก็หลาย ๆ ท่านก็ติดบริการหลาย ๆ อย่างบนอินเตอร์เน็ตแล้วซะด้วยสิ

Read More

เคยอ่านหนังสือชื่อเงินสี่ด้านมั้ยครับ มันถูกพิมพ์ออกวางจำหน่ายเมื่อปี พ.ศ. 2544 แล้วก็เช่นเคย คือกว่าผมจะรู้ว่าหนังสือเล่มนี้มันดัง ก็ผ่านไปสองปีแล้ว เหอ ๆ ทั้งปี ไม่เคยรู้อะไรก่อนคนอื่นเลย หนังสือเล่มนี้อธิบายแหล่งรายได้ที่คนเราจะหาได้ อธิบายไปอธิบายมาเขาก็สรุปว่าถึงสุดท้ายแล้ว มนุษย์อย่างพวกเรามีหนทางเพียงแค่ 4 หนทางเท่านั้น ในการหารายได้เข้ากระเป๋าเราเอง นั่นก็คือ E = Employee = เป็นลูกจ้างในระบบธุรกิจ S =

Read More

กติการะบบทุนนิยมนั้นเข้าใจได้โดยง่ายครับ ไม่ว่าจะเป็นทุนอุตสาหกรรมหรือทุนเก็งกำไร นั่นก็คือ ที่ใดที่ให้ผลตอบแทนสูง ต้นทุนต่ำ ทุนก็จะไหลไปที่นั่น ผมกำลังจะเล่าถึงฐานการบริการ SaaS นะ แต่ต้องท้าวความพอหอมปากหอมคอ คงไม่ว่ากัน มันมีอยู่ช่วงนึงในประวัติศาสตร์ครับ น่าสนใจศึกษา ตอนนั้นเป็นช่วงจักรวรรดิ์นิยมเบ่งบาน พวกฝรั่งก็ออกล่าเมืองขึ้น ญี่ปุ่นเองก็ล่าเมืองขึ้นเหมือนกัน ฝรั่งกับญี่ปุ่นมีรูปแบบในการสะสมทุนที่สวนทางกันเลย เพราะฝรั่งจะนับตนเองเป็นศูนย์กลาง นับอาณานิคมเป็นชายขอบ บทบาทของศูนย์กลางคือเป็นโรงงานที่ผลิตสินค้าอุตสาหกรรม ส่วนบทบาทของชายขอบมีหน้าที่เป็นแหล่งวัตถุดิบราคาถูก และเป็นตลาดรับซื้อสินค้าไปบริโภค ฝรั่งไม่สนใจสินค้าที่ตนเองผลิต แต่สนใจการสะสมทุนมากกว่า!!! ส่วนญี่ปุ่นนี่คนล่ะเรื่องเลย

Read More

ผมเคยโม้ไปแล้วว่าต้องมีใครคิดจะออกเงินตราเสริมของตัวเองแน่ ๆ ไม่ช้าก็เร็ว ซึ่งพื้นฐานแรกในการออกเงินตราเสริมก็คือ ต้องทำตัวเป็นเหมือน “ธนาคาร” ให้ได้ก่อน อ่านข่าวนี้ True Money ถ้าใช้คำว่า Bank ได้ คงใส่ไปแล้ว แล้วจะพบว่า มันเป็นการก้าวย่างที่ตอนแรกผู้บริหารอาจจะไม่ได้คิดอะไร แค่คิดจะรวมระบบการรับชำระของ True เข้าไว้ด้วยกัน แต่เมื่ออำนาจมันขยายตัวเข้มแข็งมากขึ้น สุดท้ายระบบเงินตราเสริมที่เข้มแข็งก็จะเกิดขึ้นจนได้ จะเห็นว่ามันเป็นเรื่องแทบไม่น่าเชื่อเลย ที่บริษัทสื่อสารโทรคมนาคม กลับสามารถจะผันตัวให้มีพฤติกรรมเหมือนกับธนาคารได้แบบนี้ ป.ล.

Read More

เมื่อวานเล่าค้างไว้เรื่องโมเดลใหม่ วันนี้เลยว่าจะมาต่อในส่วนที่เหลือ เพราะเมื่อวานโม้เอาไว้เรื่องอำนาจ วันนี้เลยจะมาต่อให้จบเรื่องของผลประโยชน์ อย่างที่ทราบกันดีว่าการสร้างเว๊ปไซต์ขึ้นมาซักหนึ่งเว๊ปนั้นมันมีต้นทุนของมัน เราอย่าเพิ่งไปพูดกันถึงว่าเราสร้างมันขึ้นมาด้วยจุดประสงค์อะไรนะ เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน มาคุยกันเรื่องต้นทุนก่อน ซึ่งต้นทุนมันควรจะประกอบไปด้วยอะไรบ้างล่ะ? ค่าจดทะเบียนโดเมน ค่าเช่าพื้นที่โฮสติ้ง หรือบางทีก็เช่าเครื่อง Server เป็นเครื่องกันไปเลย ต้นทุนของการเสียโอกาส ในการที่จะต้องมานั่งเขียนโปรแกรม หรือการติดตั้งโปรแกรม เพื่อให้เว๊ปมันทำงานได้ ต้นทุนของการเสียโอกาส ในการที่จะต้องมาดูแล เอาใจใส่ บรรจุเนื้อหาดี ๆ เข้าไป ของพวกนี้ล้วนเป็นค่าใช้จ่ายทางตรงและทางอ้อม

Read More

ดูเหมือนการทำให้เว๊ปของตัวเองโด่งดัง โดยการหยิบยืมปัญญาสาธารณะมาใช้ ชักจะไม่ค่อยเวิร์กซะแล้วครับ คือผมก็เข้าใจนะว่าโดยแนวคิดปัจจุบันตอนนี้เนี่ย การจะทำให้เว๊ปโด่งดังได้ มันต้องเป็นอะไรที่เป็นชุมชน แบบว่าต้องให้ผู้คนเข้ามามีส่วนร่วมกันได้มาก ๆ แต่ทีนี้มองในมุมกลับแล้วเราก็จะพบว่า มันเป็นการผูกขาดกลาย ๆ เหมือนกัน เพราะมันจะกลายเป็นว่าผู้ก่อตั้งเว๊ปไซต์ คือผู้ที่ได้รับผลประโยชน์สูงสุด จากการที่มีคนในชุมชนสละปัญญาคนล่ะเล็กคนล่ะน้อย มาช่วยกันสร้างสรรค์เนื้อหาให้กับเว๊ปไซต์ ผมเองเคยเขียนเรื่องระบบเปิดเอาไว้ แต่ผมเขียนขาดไปแค่ส่วนเดียว ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญมาก แล้วผมก็ลืมที่จะเขียนมันไป เพราะมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับรัฐศาสตร์ ไม่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ผมเลยไม่สนใจ นั่นก็คือ …

Read More

สารสนเทศคือข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ผ่านการกลั่นกรองหลาย ๆ ครั้งจนได้อรรถประโยชน์สูงสุด เท่าที่ผมรู้มา สารสนเทศเป็นทรัพยากรที่ยิ่งใช้จะยิ่งเพิ่มขึ้น ซึ่งต่างจากทรัพยากรทางกายภาพและชีวภาพ ที่ยิ่งใช้จะยิ่งลดลงเรื่อย ๆ สมัยก่อนทรัพยากรทางกายภาพและชีวภาพ ล้วนถูกผูกขาดโดยรัฐเสมอ ไม่ว่าจะเป็นป่าไม้, เหมืองแร่, แหล่งน้ำมัน, สัตว์ป่า, สัตว์ทะเล, การเก็บรังนกนางแอ่น, การทำเหล้า, การทำยาสูบ เป็นต้น ทรัพยากรเหล่านี้ภาครัฐมีอำนาจถือครองอยู่เต็มที่ อีกทั้งก็ไม่เคยคิดจะดำเนินการกับทรัพยากรเหล่านี้ด้วยตนเอง จึงเป็นที่มาของ “สัมปทาน” สัมปทาน

Read More

จริง ๆ แล้วบล็อกนี้ผมจะเอาไว้โม้เรื่องซอฟต์แวร์เพียงอย่างเดียวครับ แต่ก็รู้สึกเหมือนกันว่าถ้าเราจะโม้ถึงแต่ซอฟต์แวร์เพียงอย่างเดียว โดยไม่ได้เบิ่งตาว่าเหตุและผลที่มีผลกระทบกับวงการซอฟต์แวร์ไทยเรานั้น มันมาจากทั้งการเมืองและเศรษฐกิจก็คงไม่ได้ เลยจำเป็นต้องโม้ถึงหน่อย คงไม่ว่ากันเน้อะ ผมจะโม้ว่าเมืองไทยเรานั้น บริษัทซอฟต์แวร์ใหญ่ ๆ ของไทย ล้วนเป็นบริษัทประเภท “ให้คำปรึกษา” และ “รับจ้างทำของ” ทั้งสิ้น แล้วก็อย่างที่รู้ ๆ กันอยู่ว่าบริษัทเหล่านี้เป็นบริษัทใหญ่ ดังนั้นไอ้เรื่องจะทำซอฟต์แวร์เป็นซอง ๆ ออกมาขายปลีกเพื่อหวัง Economy of

Read More

เมื่อวานผมได้พูดคุยกับผู้ร่วมงาน ซึ่งเป็นพนักงานของบริษัทเอกชน ที่เข้ามาเป็นที่ปรึกษาในการจัดสร้างและดูแลระบบซอฟต์แวร์ให้กับองค์กรที่ผมทำงานอยู่ครับ เธอ – พี่ไท้ ที่ทำงานหนูมีเด็กเข้ามาใหม่ด้วยล่ะ เป็นเจ้าของเว๊ป ThaiWare ด้วยนะ ผม – อ๊ะ จริงดิ น่าสนใจแฮะ ยังไงต่อ แล้วทำไมเขาถึงเข้าไปทำงานบริษัทคุณล่ะ? เธอ – เขาบอกว่าเขาเบื่อเขียนเว๊ป แถมไม่ได้รู้จักใครด้วย ก็เลยออกมาทำงาน จะได้รู้จักคนอื่นบ้าง ผม –

Read More

เว๊ปไซต์ดัง ๆ ในโลกส่วนใหญ่จะอยู่ที่สหรัฐอเมริกาครับ คงเป็นเพราะเว๊ปไซต์สหรัฐอเมริกาใช้ภาษาอังกฤษ ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่แพร่หลายมากที่สุดในโลก ทั้งในโลกแห่งความจริง และโลกไซเบอร์ แต่ถ้ามองด้วยตรรกะอย่างที่ผมโม้ งั้นเว๊ปไซต์ดัง ๆ ในโลกก็ควรกระจายอยู่ตามประเทศอังกฤษ, ออสเตรเลีย, แคนาดา, อินเดีย, นิวซีแลนด์, ฝรั่งเศส, อิตาลี, เยอรมันนี ด้วยดิ เพราะประเทศเหล่านี้ส่วนใหญ่ก็ใช้ภาษาอังกฤษ และส่วนใหญ่ก็เป็นประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลกด้วย แต่มันก็ไม่ใช่อ่ะนะ ทำไมหนอ? ผมจับสังเกตุได้อย่างนึงว่า ทุกประเทศล้วนสร้างเว๊ปไซต์เพื่อคนในประเทศของตนเอง

Read More