เดี๋ยวนี้การทำ outsourcing ซอฟต์แวร์ ไม่ว่าจะเป็นการ outsourcing เพื่อการสร้างซอฟต์แวร์ หรือการ outsourcing เพื่อการดูแลรักษาซอฟต์แวร์นั้น ชักจะเป็นปัญหาที่ถูกถกเถียงกันในวงระดับนโยบาย อย่างเป็นเรื่องเป็นราวแล้ว ด้วยเหตุเพราะว่าในตอนแรกนั้น ทฤษฎีการ outsourcing อธิบายเราไว้อย่างสวยหรูว่ามันจะช่วยทำให้ค่าใช้จ่ายลดลง อันเนื่องจากความคิดที่ว่าให้คนที่เขาทำเป็น มารับไปทำดีกว่า เราจะได้เอาเวลาที่เหลือไปทำอย่างอื่นที่เราถนัด ซึ่งส่วนใหญ่ก็เหมือนกันหมด นั่นก็คือบริษัทที่รับงาน outsourcing ย่อมพึงพอใจมากกว่า หากสามารถรับ outsourcing แบบเต็ม
Author: ไท้ ปริญญา
มนุษย์เรามีลักษณะพิเศษอย่างนึงที่พิเศษมาก นั่นก็คือเราชอบคิดค้นประดิษฐ์นวัตกรรมต่าง ๆ ออกมา แล้วสุดท้ายไอ้เจ้านวัตกรรมเหล่านั้นก็ควบคุมเราเอาไว้ จนแม้กระทั่งเราไม่สามารถจะเอาชนะหรือท้าทายอะไรกับมันได้ มนุษย์เราประดิษฐ์ปืนขึ้นมา แต่เรากลับสู้ปืนไม่ได้ถ้ามีคนใช้ปืนนั้นกับเรา มนุษย์เราประดิษฐ์เครื่องคิดเลขขึ้นมา แต่เรากลับคิดเลขได้ไม่เร็วกว่ามัน มนุษย์เราประดิษฐ์รถยนต์ขึ้นมา แต่เรากลับวิ่งเร็วสู้รถยนต์ไม่ได้ มนุษย์เราประดิษฐ์คอมพิวเตอร์ขึ้นมา แต่เรากลับประมวลผลสู้คอมพิวเตอร์ไม่ได้ และ มนุษย์เราประดิษฐ์ระบบเงินตราขึ้นมา แต่เรากลับถูกมันสยบศิโรราบเอาไว้ ไม่กล้าหือกับมัน!!! เมืองไทยเราก็มีลักษณะเหมือนประเทศทุนนิยมทั่วไป นั่นก็คือ ไม่ว่าจะเป็นชนชั้นกลางหรือชนชั้นล่างก็ล้วนร้อนเงินเหมือนกัน แปลกมั้ย? คงไม่น่าแปลกใจอะไร เพราะเขาเหล่านั้นมีค่าใช้จ่ายมากกว่ารายได้ ถึงแม้จะพยายามที่จะไม่จับจ่ายมากกว่ารายได้ที่ตัวเองมีก็ตาม
เดี๋ยวนี้ Broadband Internet เป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ … มัน … เป็นเรื่องที่น่ายินดีจริง ๆ เพราะนั่นก็หมายความว่าผู้ใช้อินเตอร์เน็ตสามารถที่จะเสพข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตได้มากขึ้น และด้วยเหตุผลนี้กระมังที่คนส่วนใหญ่จึงฉวยโอกาสนี้ โอกาสที่ Broadband กำลังเติบโต นำเสนอรูปแบบการให้บริการทางอินเตอร์เน็ตใหม่ ๆ ไม่เว้นแม้กระทั่ง video podcasting หรือเกมออนไลน์ แต่ผมกลับคิดอีกอย่างนึง อาจจะสวนทางกันนิดหน่อย ผมคิดว่าในเมื่อตอนนี้ใคร ๆ ก็สามารถดู
ถ้าเราแปลกันดื้อ ๆ คำว่า WatchDog ก็ต้องแปลว่า “เฝ้ามองหมา” อือม เราจะเฝ้ามองหมาไปหาพระแสงอะไร อาจเป็นได้ว่าหมามันจะมากัดเรา เราก็เลยต้องมองมันเอาไว้ก่อน เผื่อมันพุ่งเข้ามากัดเรา เราก็จะได้กระโดดเตะมันเลย ต่อไปมันจะได้หลาบจำไม่กล้ามากัดเราอีก แปลงี้เหรอ? มันไม่มีความหมายอื่นอีกเหรอ? หุ ๆ มีสิ จริง ๆ แล้ว WatchDog ก็เป็นความหมายอื่นได้นะ คือเป็นอุปกรณ์อิเลกทรอนิกส์ชิ้นเล็ก ๆ
คิดว่าข้อมูลที่เราจะเก็บในคอมพิวเตอร์ ควรจะละเอียดแค่ไหนดีล่ะ? ถ้าเป็นการบันทึกข้อมูลลงบล็อก ผมก็คงจะบันทึกไว้ว่า … 25/12/2550 09:45 – ตื่นเช้ามาแล้วรู้สึกสดชื่นจัง คิดว่าถ้าได้ซดโอวัลตินตอนเช้ายิ่งอร่อยเข้าไปใหญ่? จริง ๆ บล็อกต้องสาธยายยาวกว่านี้ แต่ถึงจะยาวมันก็ไม่ละเอียดซักเท่าไหร่ ต้องทำความเข้าใจนิดนึงว่าข้อมูลที่ยืดยาว ไม่ได้หมายความว่ามันจะละเอียด งั้นลองใหม่คราวนี้เป็นไมโครบล็อกบ้าง ผมก็คงจะบันทึกว่า … 25/12/2550 09:00 – ตื่นเช้า 25/12/2550 09:25
ผมเคยได้ดูหนังอเมริกันอยู่สองเรื่องครับ เค้าโครงเรื่องแนววิทยาศาสตร์ทั้งคู่ ซึ่งถ้าว่ากันตามจริงแล้วหนังทั้งสองเรื่องแทบไม่มีจุดไหนที่จะเหมือนกันเลย แต่บังเอิญผมจับประเด็นที่เหมือนกันได้จากทั้งสองเรื่องนั้น ประเด็นที่จับได้ก็คือความพยายามในการจัดเก็บเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกอย่างไว้ทุกกระเบียดนิ้ว เพื่อจะได้สืบค้นได้ในเวลาที่ต้องการ!! หนังอย่าง Final Cut พยายามจะบอกเราว่าต่อไปเราจะสามารถเก็บความทรงจำของเรา ความทรงจำตั้งแต่เกิดจนกระทั่งตายได้ โดยผ่านความก้าวหน้าของเทคโนโลยีไมโครชิปและเทคโนโลยีการฝังไมโครชิปไว้ในสมอง อือม มันคงจะดีมั้ยล่ะเนี่ย ถ้าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเราทุกกระเบียดนิ้วจะถูกเก็บเอาไว้ทั้งหมด!!! ในขณะที่หนังอีกเรื่องนึง Deja Vu ใช้การนำเสนอเรื่องของการติดตามคดี ที่มีความจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากทีมวิทยาศาสตร์ ซึ่งบังเอิญว่าทีมงานดังกล่าวมีเทคโนโลยีอันล้ำยุค ที่จะสามารถเก็บรายละเอียดของชีวิตใครคนใดคนนึงเอาไว้ได้ผ่านมุมกล้องต่าง ๆ แล้วฉายออกมาให้เห็นเสมือนหนึ่งกำลังดู Reality
ธุรกิจไม่สามารถจะขับเคลื่อนได้เลยถ้าไม่มีทุนตั้งต้น เพราะทุนตั้งต้นเป็นปัจจัยสำหรับจัดหาวัตถุดิบ จัดจ้างแรงงาน และจัดซื้อเทคโนโลยีที่สำคัญในการผลิตและการบริการ ถ้าอยากได้ทุนอันเกิดจากการแปลงซอฟต์แวร์เป็นทุน เราก็สามารถจะทำได้ (ตามทฤษฎี) โดยขอกู้ผ่านธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือ SME Bank รู้สึกว่าต้องเขียนแผนธุรกิจแนบไปกับคำขอกู้เงินด้วยนะ เห็นเขาว่าอย่างนั้น!!! แต่เรื่องจริงตลอดหลายปีที่ผ่านมาก็คือมันเป็นเรื่องของทฤษฎี เอาเข้าจริงแล้วไม่มีใครปฏิบัติกัน เพราะอะไร? สงสัยคงเป็นเพราะความน่าเชื่อถือบ้างล่ะ เพราะมูลค่าของซอฟต์แวร์ที่จะเอามาค้ำประกันเงินกู้มันไม่มีคุณค่าพอบ้างล่ะ หรือแม้กระทั่งเพราะรัฐบาลไม่ได้สนับสนุนอย่างต่อเนื่องบ้างล่ะ เป็นต้น จริง ๆ แล้วภาครัฐน่าจะเปลี่ยนใหม่นะ คือในเมื่อรู้อยู่แล้วว่าการแปลงซอฟต์แวร์เป็นทุนน่ะ ในทางปฏิบัติแล้วมันทำไม่ได้ง่าย ๆ งั้นเปลี่ยนใหม่ดีกว่ามั้ย?
ประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย ก็ต้องถือสิทธิ์ถือเสียงของประชาชนเป็นสำคัญ แล้ววิธีที่ประชาชนจะสามารถแสดงพลังของตนเองตามระบอบประชาธิปไตยได้ก็มีหลายวิธีด้วยกัน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือการไป “เลือกตั้ง” การเลือกตั้งเป็นกิจกรรมทางการเมืองที่ต้องใช้งบประมาณสูงมาก ทั้งโดยรัฐเองและโดยพรรคการเมือง ผมไม่ชอบเลยนะกับการที่ต้องเสียเงินตั้งมากมายไปเพื่อการนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งงบประมาณที่จะใช้ในการพิมพ์บัตรเลือกตั้ง และงบประมาณในการจัดจ้างคนมานับบัตรเลือกตั้ง ทุกครั้งเห็นแบบนี้ทีไร ผมมักตั้งคำถามกับตัวเองทุกทีว่า … ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ทำแทนไม่ได้เหรอ เร็วกว่าด้วย แม่นยำอีกต่างหาก!!! มันเป็นจินตนาการที่สามารถจะเกิดขึ้นได้นะผมว่า แต่ … แต่อุปสรรคมันเยอะมากเลยล่ะ เพราะมันคงจะเกิดคำถามทางเทคนิคขึ้นมากมายว่า หากใช้ระบบคอมพิวเตอร์อำนวยความสะดวกในการลงคะแนน และอำนวยความสะดวกในการรวบรวมประมวลผลคะแนนแล้ว มันจะเชื่อถือได้มั้ย? จะมีการโกงกันหรือเปล่า?
ช่วงนี้ผมค่อนข้างปันใจให้กับ opensource ที่ชื่อว่า Drupal เป็นอย่างมากเลยครับ อย่าว่างั้นงี้เลยนะ นี่ถ้าไม่ใช่เพราะมันได้รับรางวัล CMS ยอดเยี่ยมประจำปีที่ผ่านมา ผมเองก็คงไม่ได้สนใจจะไปชายตาแลมันหรอก ถึงแม้จะมี geek คอมพิวเตอร์ของไทยหลาย ๆ คน ป่าวประกาศในบล็อกของตนเองว่ามันดีแบบนั้นดีแบบนี้ก็ตาม แสดงว่าผมก็ยังเป็นแค่ปุถุชนคนนึง ที่ยังคล้อยตามต่อความเชื่อถือของมหาชน มากกว่าจะคล้อยตามความเชื่อของบุคคลคนใดคนนึงนั่นเอง (ก็มันได้รางวัลนี่นา ก็แสดงว่ามันต้องมีอะไรดีแล้วอ่ะดิ อิ อิ 😛 นี่ถ้ามันไม่ได้รางวัลก็ไม่สนใจมันเหรอ?
เดี๋ยวนี้มีทฤษฎีหรือศัพท์ใหม่ ๆ เข้ามาในวงการไอทีบ้านเราเยอะขึ้นครับ ไม่ว่าจะเป็น outsourcing, offshoring, blue ocean strategy, long tail เป็นต้น ซึ่งเราก็เห่อกันครับ พยายามที่จะเข้าอกเข้าใจแล้วนำมาปรับใช้ในองค์กรที่เราทำงานกัน มันเป็นเรื่องน่าสนใจอย่างนึงที่ทฤษฎีหรือศัพท์เหล่านี้ มักวนเวียนเกี่ยวพันกับไอทีซะส่วนใหญ่ เป็นการบัญญัติขึ้นเพื่อพยายามที่จะหนีออกไปจากปัญหาเดิม ๆ ปัญหาซึ่งใช้ทฤษฎีเดิม ๆ แก้ไม่ได้ ก็เลยต้องบัญญัติทฤษฎีใหม่ ๆ มาเพื่อแก้กัน ไม่ว่าปัญหาดังกล่าวจะเป็นปัญหาทางเทคนิคในทางไอที หรือปัญหาระดับการจัดการของไอทีก็ตาม