เมื่อราวปี พ.ศ. 2534 ในขณะที่เพื่อน ๆ ของผมกำลังไปลงหลักสูตรการเรียนคอมพิวเตอร์ที่โรงเรียนสยามคอมพิวเตอร์ เพื่อเรียน CU-Writer, Lotus 123 และ dBase III Plus อยู่นั้น ผมกลับทำอะไรที่ไม่ค่อยเหมือนชาวบ้านเท่าไหร่ครับ โดยการไปให้ความสนใจกับเจ้าภาษาคอมพิวเตอร์ที่ชื่อว่า Assembly แทน ผมรู้จักกับ Assembly ก็เพราะอาจารย์ที่สยามคอมพิวเตอร์ตอนโน้นน่ะ เขาโม้ไว้ว่าจะเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ดีได้ ต้องเริ่มจาก Basic
Author: ไท้ ปริญญา
ผมว่านะนักพัฒนาซอฟต์แวร์ทั่วไป ไม่ค่อยจะชอบเขียนผังงานกันหรอก จริงแมะ? ส่วนใหญ่ก็จะบอกว่าถ้าให้เขียนผังงานนะ สู้เขียนเป็นโปรแกรมออกมาเลยจะดีกว่า เพราะมันก็เหมือนกันนั่นแหล่ะ ทำไมต้องมาเสียเวลาเขียนผังงานด้วย ฉอด ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ฉอด (คองี้เอ็นขึ้นเลยเวลาเถียง) อันนั้นมันก็จริง เห็นด้วย เพราะถ้าเมื่อ 9 ปีก่อนมีใครมาสั่งให้ผมเขียนโปรแกรม แล้วกำชับกับผมว่าก่อนจะเขียนโปรแกรมให้เขียนผังงานก่อนล่ะก็ ผมจะตบกะโหลกดิ้นเลย เหอ ๆ โหด
ทุกวันนี้ในแวดวงคนไอทีใคร ๆ ก็ค่อนข้างจะรู้กันครับว่า งานทางด้านพัฒนาซอฟต์แวร์ของแต่ล่ะองค์กรนั้น ใช้คนกันได้มั่วเหลือเกินเลยจริง ๆ ไม่ว่าจะให้เขียนโปรแกรม, ให้ติดตั้งคอมพิวเตอร์, เดินสายแลน, ตั้งเซอร์เวอร์ หรือไม่ก็ให้ออกรายงานประจำวันซ้ำ ๆ ซาก ๆ หรือบางครั้งก็ต้องมาคอยรับโทรศัพท์จากผู้ใช้ระบบ แล้วก็ต้องมารองรับความต้องการใหม่ ๆ ของผู้ใช้อีก เชื่อว่าคนที่ทำงานพัฒนาซอฟต์แวร์น่าจะเคยมีชะตากรรมกันแบบนี้มาแล้วทั้งนั้น ทีนี้เมื่อหลายวันก่อนมีดอกเตอร์ท่านนึงมาพูดเรื่องการพัฒนาซอฟต์แวร์ให้ผมฟัง แถมมีการวาดภาพมาให้ดูเพื่ออธิบายความเข้าใจด้วย ผมก็เลยแฮ่บมาซะเลย จากภาพจะเห็นว่างานของนักพัฒนาซอฟต์แวร์จะไม่คลุมเคลือเลย เพราะงานดังกล่าวจะอยู่ในแถบสีเขียวเท่านั้น ส่วนแถบสีเหลืองเป็นของเจ้าหน้าที่ในงานอื่น
ปรกติแล้วพวกเราอะไร ๆ ก็จะนึกถึงแต่ Google, Yahoo และ Microsoft อ่ะนะ จนบางครั้งก็อาจจะไม่ค่อยรู้กันเท่าไหร่ว่าจริง ๆ แล้วยังมี website อีกตั้งมากมายที่สร้างผลิตภัณฑ์ออกมาแล้วดีกว่า 3 จ้าวที่เกริ่นมาซะอีก เพียงแต่เขาไม่ดังก็เท่านั้นเอง อย่างล่าสุดผมก็เห็น Google ปล่อย CodeSearch ออกมา ซึ่งให้บริการสืบค้น source code ในโลกใบนี้
สำหรับผมแล้วภาษา cobol เป็นภาษาโบราณมากครับ ไม่รู้เป็นโชคดีหรือเปล่าที่ผมได้เรียนมัน วิชานี้ตั้ง 3 หน่วยกิตแน่ะ แถมต้องลงปฏิบัติด้วย อึ๋ย ไม่ชอบภาษานี้เลย เห่ยอ่ะ ลักษณะยังกับภาษาพรรณา pointer อะไรก็ไม่มี บ่น ๆ ๆ ๆ สมัยนั้นยังเป็น cobol ซึ่งต้อง compile บน MS-DOS อยู่เลยครับ
อะไรกันหนอคือ Holy Grail อืม ๆ สำหรับคนที่นับถือศาสนาพุทธจะไม่รู้จักมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่สำหรับชาวคริสต์น่าจะรู้จักสิ่งนี้ดี เพราะมันเป็นสิ่งที่มีการกล่าวถึงในตำนานของศาสนาคริสต์ มันเป็นภาชนะที่ใส่อาหารมื้อสุดท้ายของเยซูคริสต์ ก่อนที่เยซูคริสต์จะถูกตรึงบนไม้กางเขน คิดว่าข้อมูลตรงนี้คงไม่ผิดนะ ทีนี้ผมจะเล่าอะไรล่ะเนี่ย? อ้อ ผมจะเล่าว่าเจ้า Holy Grail นี้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพราะบ้างก็บอกว่ามันเป็นจาน บ้างก็ว่ามันเป็นชาม แต่ที่นิยมมากที่สุดคงจะบอกว่ามันเป็นถ้วย โดยบางตำนานบอกว่ามันเป็นถ้วยที่ใช้รองเลือดของเยซูคริสต์ ซึ่งส่วนใหญ่ถ้าเอาเรื่องนี้มาผูกเรื่องเป็นภาพยนต์หรือละครหรือแม้แต่การ์ตูน ก็จะเรียกเจ้าสิ่งนี้ว่า “จอกศักดิ์สิทธิ์” เป็นสมบัติล้ำค่า
เมื่อก่อนผมเคยได้ดูภาพยนต์ของ American เรื่องนึงครับ เรื่อง Twister ฉายราวปี พ.ศ. 2539 แป๊ป ๆ ผ่านมาสิบปีแล้ว(แก่ลงไปเยอะเลยเรา) ในเรื่องเล่าถึงนักวิทยาศาสตร์ที่พยายามทุกวิถีทาง เพื่อจะเก็บข้อมูลของพายุหมุน ซึ่งก่อตัวขึ้นปีล่ะหลาย ๆ ครั้ง และทุกครั้งมันก็ทำลายบ้านเรือนและคร่าชีวิตผู้คนไปมากมาย มันเป็นภัยธรรมชาติที่แม้แต่อภิมหาอำนาจอย่าง America ก็ไม่สามารถจะทำอะไรมันได้ (เป็นเรื่องโชคดี ที่ประเทศไทยเราไม่มีของอันตรายแบบนี้) ในหนังพยายามจะอธิบายให้เราเข้าใจว่า ถ้าพวกเขาสามารถส่งเจ้าตัว Sensor
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผมมักจะแวะเวียนเข้าไปยังกระดานข่าวต่าง ๆ เพื่ออ่านกระทู้ที่เกี่ยวกับ computer และกระทู้ซึ่งคน computer คุยกัน กระทู้ซึ่งส่วนใหญ่จะร้อนแรงก็จะหนีไม่พ้นการตั้งกระทู้ถามเกี่ยวกับว่า IDE ตัวไหนดีกว่ากัน ซึ่งอันนั้นเจอบ่อย (และก็รู้สึกว่ามันไร้สาระซะเหลือเกิน) แต่ที่เจอไม่บ่อย แต่ก็ร้อนแรงไม่แพ้กันนั่นคือ การคุยกันเรื่องค่าแรงของนักพัฒนา software ในประเทศไทยเรา การพูดคุยกันค่อนข้างจะดุเดือด เผ็ดร้อน และหลายครั้งก็เชื่อถือไม่ได้ เพราะมีการให้ตัวเลขค่าแรงที่เบี่ยงเบนจนไม่สามารถยึดถือได้เลยว่าเป็นความจริง แล้วจริง ๆ แล้ว
สำหรับการทำ blog หรือ website นั้น นอกจากเนื้อหามันจะต้องน่าสนใจแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือรูปแบบของ blog หรือ website ของเราอ่ะครับ ทีนี้บางคนนะบางคน ไม่นับผม เพราะปรกติแล้วผมไม่สนใจเรื่องรูปแบบซักเท่าไหร่ ก็คือบางคนเค้าสนใจน่ะครับว่าผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมยัง blog หรือ website ด้วย Browser ยี่ห้อต่าง ๆ หรือรุ่นต่าง ๆ นั้น
ตอนนี้โลกเรากำลังค่อย ๆ เปลี่ยนไปตามคำทำนายของนักอนาคตศาสตร์ครับ ผมเองเคยได้มีโอกาสอ่านหนังสือชื่อ The Future of Money ในนั้นอธิบายเรื่องการจ้างงานเอาไว้ด้วย มีความตอนนึงบอกว่า ต่อไปองค์กรจะลดขนาดลง เพราะทุกองค์กรต้องการลดต้นทุน อีกทั้งต้องการให้ผลผลิตหรือการบริการมีคุณภาพสูง จึงมีความจำเป็นต้องจ้างบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการผลิตหรือการบริการนั้น ๆ มาทำงานให้ แทนที่จะสร้างคนในองค์กรเพื่อมาจัดการเรื่องดังกล่าวแทน กลุ่มคนหรือบริษัทที่มาทำงานให้เราตรงนี้ มักถูกเรียกขานด้วยชื่อเรียกมากมาย แต่ชื่อที่นิยมเรียกกันก็คือ “consult” โดยรากศัพท์แล้ว consult หมายถึงผู้เชี่ยวชาญ แต่สำหรับผมแล้ว