คอมพิวเตอร์ถึงจะทำงานได้เร็วแต่ก็มีข้อจำกัด หากมันเจอกับโจทย์ที่เป็นปัญหาซับซ้อนในการคำนวณ ซึ่งเท่าที่ผมเคยเผชิญมันมีอยู่ 2 แบบใหญ่ ๆ (และยังมีแบบอื่นอีก) คือ แบบที่ต้องคำนวณด้วยเวลา C ยกกำลัง N กับ แบบที่ต้องคำนวณด้วยเวลา 2 ยกกำลัง N แล้วจึงลบ 1 โดย N คือจำนวนของขนาดปัญหาที่เป็นไปได้ อย่างแบบแรก ยกตัวอย่างให้เห็นง่าย ๆ
Author: ไท้ ปริญญา
การหยั่งรู้ล่วงหน้าแบ่งได้เป็น 2 แบบ แบบแรกคือเรารู้ได้ด้วยตัวเราเอง เพราะเรามีญาณทิพย์ ญาณวิเศษ ที่เกิดจากกสินที่บริกรรม สมาธิที่ก่อกำเนิด วิปัสสะนาที่เข้าฌาณ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลใจ หรือของจากชาติที่แล้ว ส่วนแบบที่สองคือเรารู้ได้เพราะมีบางสิ่งมาบอกเราก่อน ไม่เกี่ยงว่าจะเป็นกุมารทองบอก ผีพรายกระซิบ เจ้าที่เจ้าทางเข้าฝัน สายสืบรายงาน คนรู้จักโทรมาบอก แอบได้ยินได้เห็น หรือแม้แต่ให้คอมพิวเตอร์คำนวณให้ เราสามารถใช้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือเพื่อหยั่งรู้ล่วงหน้าได้ โดยวิธีการที่ง่ายที่สุดก็คือการให้คอมพิวเตอร์ตรวจในทุก ๆ เส้นทาง ทุก ๆ
การวิเคราะห์ภาพสมองเป็นหนึ่งในงานวิจัยที่กำลังเป็นที่นิยมในชาติมหาอำนาจในขณะนี้ครับ เพราะสมองเป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์มีความเหนือกว่าสัตว์และพืชทั้งปวงในสากลโลกนี้ ดังนั้น หากมีความเข้าอกเข้าใจในสมองได้ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเข้าใจตรง ๆ ก็ได้ เข้าใจอ้อม ๆ ก็ได้ ก็จะทำให้เราสามารถที่จะอ่านจิตใจของเจ้าของสมองได้ และสามารถทำนายพฤติกรรมของเจ้าของสมองได้ (รู้สึกจะพิมพ์ “ได้” หลายตัวแฮะ) ทุกวันนี้มีเทคโนโลยีในการถ่ายภาพสมองอยู่หลายแบบครับ ซึ่งทั้งหมดล้วนใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความเข้มสูงในการถ่ายภาพ โดยหลักการคือการปล่อยให้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าผ่านปริมาตรสมอง แล้วตรวจสอบการดูดกลืนหรือสะท้อนกลับของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เพื่อแสดงออกมาเป็นภาพสามมิติ แล้วตรวจวิเคราะห์บริเวณที่มีการตอบสนองเป็นพิเศษ ซึ่งการตอบสนองอาจจะอยู่ในรูปของบริเวณที่มีความแตกต่างเชิงพื้นที่หรือเชิงเวลา คือแบบว่าตรงไหนมันดูเด่นกว่าใคร ๆ ก็ตรงนั้นแหล่ะเป็นลักษณะพิเศษ
ถ้าเราเปรียบสิ่งมีชีวิตเป็นสิ่งที่แสนวิเศษ งั้นเราก็คงต้องถือว่าข้อมูล Bioinformatics ของสิ่งมีชีวิตเป็นสิ่งที่แสนวิเศษยิ่งกว่า!!! ปัจจุบันงานวิจัยทาง Bioinformatics กำลังก้าวหน้าไปเรื่อย ๆ ครับ ทิ้งให้คนรุ่นหลังต้องวิ่งไล่กวดศึกษาให้ทัน ดังนั้น แค่เรียนให้ทันความคิดของคนรุ่นก่อนได้ก็หืดขึ้นคอแล้ว ซึ่งงานทางด้าน Bioinformatics ก็มีหลายอย่างครับ สากกะเบือยันเรือรบ แต่ส่วนใหญ่ก็ยุ่งอยู่กับข้อมูลปริมาณอภิมหามหึมาของลักษณะทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตอะไรประมาณนั้น ผมเองก็ได้การบ้านมาทำเรื่องนี้เหมือนกัน เป็นงานร่างเปเปอร์เพื่อลองผิดลองถูกในการคัดเลือกลักษณะเฉพาะทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต เพื่อนำมาเข้าสู่กระบวนการเครื่องจักรเรียนรู้ สอนให้เครื่องจักรมันรู้วิธีแยกแยะลักษณะปรากฎของสิ่งมีชีวิต โดยใช้ลักษณะทางพันธุกรรมของตัวมันเองนั่นแหล่ะเป็นตัวแยกแยะ ก็ยังคงเหมือนเดิมครับ เปเปอร์นี้ของผมไม่ได้มีการคิดอะไรใหม่ เป็นแค่การเรียบเรียงสิ่งที่น่าจะพอใช้ได้เอามารวม
ผมได้รับการบ้านมาครับ คือต้องนำงานวิจัยในหัวข้อเกี่ยวกับความมั่นคงของคอมพิวเตอร์มาสรุปความ ผมเลยเลือกทำอันนี้ครับ มันคือโครงร่างซอฟต์แวร์ ConXsense ซึ่งมันเป็นงานวิจัยที่ได้รางวัลชนะเลิศในงานประชุมวิชาการ ASIACCS’14 จัดขึ้นที่ญี่ปุ่นเมื่อช่วงเดือนมิถุนายน 2557 ที่ผ่านมา ลองอ่านดูแล้วกันครับว่างานวิจัยนี้เขาทำอะไร … — ConXsense – Automated Context Classification for Context-Aware Access Control ปัจจุบัน โทรศัพท์มือถือได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของประชาชน และถูกพัฒนาให้ทันสมัยโดยผู้ผลิตชั้นนำอยู่อย่างต่อเนื่อง
สมัยก่อนผมจะกระหายใคร่รู้ในวิทยาการล้ำสมัยเอามาก ๆ และก็จะพยายามดั้นด้นเสาะแสวงหาความรู้ในหนังสือมาอ่านโดยตลอด ซึ่งมันทำให้ผมได้มีความรู้ก่อนใครเสมอ ๆ เรียกว่าเป็นคนบูชาความรู้เลยก็ว่าได้ บางคนอาจจะคิดว่ามีความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอดถมไป อันนี้ก็จริง แต่ผมคิดว่าการได้รู้ในความรู้ มันก็เหมือนกับการที่คนทั่วไปอยากมีอยากได้ทั่ว ๆ ไปนั่นแหล่ะ เพียงแต่สิ่งที่ผมอยากมีอยากได้มันเป็นความรู้เท่านั้นเอง ทีนี้ถ้าเกิดใครที่เป็นแบบผม คือ กระหายใคร่รู้ในวิทยาการคอมพิวเตอร์อันก้าวล้ำก่อนใคร ๆ แล้วไม่รู้ว่าจะไปเสาะแสวงหาความรู้เพื่อให้ได้รู้ได้จากที่ไหน งั้นผมจะลำดับแหล่งความรู้จากทันสมัยที่สุดไปยังทันสมัยน้อยที่สุดให้ทราบดังนี้ ลำดับที่ 1 Proceeding จาก Conference
วิชา Artificial Intelligent เน้นเรื่องหลัก ๆ สองอย่างครับ คือ Predict และ Mining ในขณะที่วิชา Cognitive Science เน้นเรื่อง Brain และ Mind พวกเราเคยหนุนของหนัก ๆ ขึ้นที่สูงมั้ยครับ ของมันหนัก เรายกมันขึ้นที่สูงรวดเดียวไม่ได้ เราเลยต้องใช้วิธียกด้านนึงแล้วหาอะไรมาหนุนให้มันสูงขึ้น มันก็จะเอียงใช่มั้ยครับ ไม่เป็นไรครับ
ผมเชื่อมาตลอดว่างานวิจัยทางด้าน Predict ง่ายกว่าทางด้าน Mining เพราะงานวิจัยทาง Predict ส่วนใหญ่แล้วพิสูจน์ได้ด้วยการหา ROC curve จะมีส่วนน้อยเท่านั้นที่ต้องใช้ Domain Expert เข้ามาช่วย เช่น งานทางด้าน Facial Recognition เป็นต้น ในขณะที่งานวิจัยทางด้าน Mining ส่วนใหญ่แล้วต้องพิสูจน์ด้วย Domain Expert เพราะการหาความรู้จากข้อมูล มันไม่สามารถพิสูจน์ได้ถ้าไม่มีผู้เชี่ยวชาญมาตัดสินว่าถูกหรือผิด
การทำวิจัยทางด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ มีองค์ประกอบสำคัญอยู่ 2 เรื่องใหญ่ ๆ คือ 1) ปัญหา และ 2) เครื่องมือในการแก้ปัญหา คนส่วนใหญ่ที่เรียนวิทยาการคอมพิวเตอร์มา มักจะได้มีโอกาสเรียนเครื่องมือในการแก้ปัญหาจนชำนาญ และพวกเขาเหล่านั้นก็มักจะมีเครื่องมือแก้ปัญหาประจำตัวอะไรซักอย่างหนึ่ง ที่พวกเขาถนัดที่สุด ใช้บ่อยที่สุด และมีความมั่นใจมากที่สุดเมื่อใช้มัน เช่น พวกเขาอาจจะถนัดใช้ Neural Network มาก รู้ทะลุปรุโปร่งสุด ๆ หรือ อาจจะถนัด
อาจารย์ผมเคยสอนว่า ถ้าเราจะทำวิจัยเรื่องอะไร เราก็ต้องดูก่อนว่าตอนนี้โลกเขาไปถึงไหนกันแล้ว และผมก็เชื่อเหลือเกินว่าตอนนี้พวกเราก็คงจะรู้แล้วว่าโลกอินเทอร์เน็ตนั้นสำคัญและมีพลังมากขนาดไหน!! หลายปีที่ผ่านมา ประชาคมอินเทอร์เน็ตได้ช่วยกันสร้างเนื้อหาต่าง ๆ และโอนมันขึ้นไปอยู่บนระบบอินเทอร์เน็ตมากมายมหาศาล ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็น ข้อความ ภาพ เสียง วีดีโอ แฟ้มไบนารี่ ซึ่งการกระทำเหล่านั้นล้วนผ่านทั้งกระบวนการของ User Generated Content และหรือ Human Based Computation เนื้อหาที่มากมายมหาศาลที่ถูกสร้างขึ้นเหล่านั้น เป็นก้อนข้อมูลขนาดมหึมาซึ่งต้องมีพื้นที่จัดเก็บที่มีขนาดทัดเทียมกันหรือมากกว่ารองรับ ทุกอย่างมันต้องสอดคล้องกัน เพราะจำนวนคนในประชาคมอินเทอร์เน็ตที่สร้างเนื้อหามีจำนวนมากมายเป็นล้าน ๆ คน ในขณะที่พื้นที่จัดเก็บก็ต้องขยายตามไปด้วย