เมื่อวานนี้ผมไปโปรโมตเว๊ปตัวเองใน http://www.pantip.com/ ห้อง developer ครับ ได้รับผลตอบรับดีทีเดียวครับ สงสัยคงจะไม่เข้าไปพักใหญ่ เพราะมืออาชีพอยู่กันเยอะเหลือเกิน 🙂 เจอเหตุการณ์แบบนี้แล้วทำให้ผมเห็นว่า คนที่ตอบกระทู้ผมน่าจะมีความรู้ในการพัฒนาซอฟต์แวร์จึงรู้สึกไม่พอใจ แต่ก็เชื่อว่าคน ๆ นี้ขาดองค์ความรู้โดยรวมอื่น ๆ ครับ โดยสิ่งที่คน ๆ นี้ขาดไปน่าจะเป็น
Author: ไท้ ปริญญา
เนื่องจากผมได้รับทราบจากคุณ komkrit ซึ่งเป็นผู้มาเยี่ยมเยียน Blog ของผม เมื่อตอนที่ผมเปิดตัวโปรแกรมแปลงค่ามาตราชั่งตวงวัด ว่าคุณ komkrit ได้ช่วยเพิ่มลิงค์ให้กับพี่ไท้มาตรวิทยาในเว๊ปของสำนักงานกลางชั่งตวงวัด กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์แล้ว ผมรู้สึกขอบคุณเป็นอย่างมาก และได้ตอบขอบคุณไปแล้ว แต่ไม่ได้เข้าไปดูเพราะคิดว่าเป็นการเพิ่มลิงค์ธรรมดาเหมือนเว๊ป Sanook มาวันนี้ผมเข้าไปดูจึงตกใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากลิงค์ที่สำนักงานกลางชั่งตวงวัด ไม่ใช่ลิงค์เด็กเล่น แต่เป็นลิงค์ที่เป็นทางการ และชี้ไปยังเว๊ปที่มีคุณภาพเท่านั้น แสดงให้เห็นว่าถ้าไม่ผ่านการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่รัฐของสำนักงานกลางชั่งตวงวัด คงไม่มีสิทธิ์จะเพิ่มส่งเดชในลิงค์ได้ ผมจึงขอบพระคุณสำนักงานกลางชั่งตวงวัดมา ณ ที่นี้ครับ
เล่มนี้ผมซื้อมาเมื่อปีพ.ศ. 2538 ครับผ่านมา 11 ปีแล้ว ที่ซื้อมาเพราะตอนนั้น Microsoft Visual C++ กำลังดังมาก ๆ เลย ช่วงนั้นเป็นยุคเปลี่ยนผ่านระหว่าง Microsoft Windows 3.11 กับ Microsoft Windows 95 ครับ ซึ่งหลังจาก Microsoft ได้ปล่อย Microsoft
ซอฟต์แวร์ก็เหมือนเครื่องบินนั่นแหล่ะครับ ที่มีโอกาสจะเกิดอุบัติเหตุได้ทุกเมื่อ ดังนั้นเราจำเป็นที่ต้องให้ซอฟต์แวร์ที่เราสร้างขึ้นเก็บประวัติการทำงานของตนเองครับ หรือภาษาทางคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า Log File เจ้า Log File ถือว่าสำคัญมาก หากซอฟต์แวร์ดังกล่าว เราพัฒนามันขึ้นมาเพื่อให้มันทำงานแบบอัตโนมัติและทำงานอยู่ตลอดเวลาทั้งวันทั้งคืนโดยที่ไม่มีใครเฝ้า เราจำเป็นอย่างยิ่งครับที่ต้องมี Log File เพราะไม่รู้วันดีคืนดีซอฟต์แวร์ดังกล่าว จะเดี้ยงขึ้นมาเมื่อไหร่ แต่ถ้าซอฟต์แวร์ที่เราสร้างขึ้น ถูกใช้โดยเจ้าหน้าที่ระบบ Front Office หรือว่า Back Office ความจำเป็นในการมี
ปัจจุบันไม่ว่าเราจะเข้าไปทำงานที่องค์กรไหน ไม่ว่าเล็กหรือว่าใหญ่ ก็ล้วนจะต้องใช้คอมพิวเตอร์กันแล้วนะครับ เหมือนกับว่าคอมพิวเตอร์มันได้กลายเป็นอุปกรณ์สำคัญในการทำงานไปแล้ว ทีนี้คอมพิวเตอร์มันคงจะทำงานไม่ได้หรอก ถ้ามันไม่มีซอฟต์แวร์บรรจุอยู่ข้างใน จริงมั้ยครับ? ในคราวที่แล้วผมได้เขียนไว้ว่า องค์กรใหญ่ ๆ ส่วนใหญ่ มักจะจัดซื้อจัดจ้างซอฟต์แวร์ตัวใหญ่ ๆ มาไว้ในองค์กร แต่มักไม่เคยจัดสรรงบประมาณในการเชื่อมโยงระบบเหล่านั้นให้ทำงานได้อย่างไหลลื่น (อ่านจากการเชื่อมโยงข้อมูลกันในระบบ Enterprise) มาวันนี้ผมจะพลิกลิ้น พูดอีกอย่างนึง คงไม่ว่ากัน 🙂 จริง ๆ ก็ไม่เรียกว่าพลิกลิ้นหรอกครับ เพราะว่าในขณะที่บางองค์กรชอบที่จะซื้อซอฟต์แวร์ตัวใหญ่
ไม่รู้ว่าผมเชยหรือเปล่านะที่เพิ่งรู้ แต่จะเล่าให้ฟังครับว่าเดี๋ยวนี้การจะได้ License Key เพื่อมาติดตั้งซอฟต์แวร์มันเปลี่ยนไปแล้ว สมัยก่อนผมจะซื้อแผ่นก๊อปครับ (นิสัยไม่ดี) แล้วปรกติด้านหลังของกล่องจะมีเลข License Key ใช่แมะ ก็เอาเลขนั่นแหล่ะ กรอกเข้าไปเลย ก็ได้เลย หรือบางทีเลข License Key ก็จะอยู่ในกล่อง เราก็เอาแผ่น License Key มากรอกเข้าไป ก็จบ เดี๋ยวนี้ต้องงี้ครับ พอดีหลายเดือนก่อนผมจะให้ผู้ร่วมงานในทีมติดตั้ง
ผมเพิ่งจะได้กล้องดิจิตอลมาครับ จะได้ถ่ายรูปหนังสือคอมพิวเตอร์ที่ผมสะสมไว้ ซึ่งส่วนใหญ่ถือว่าเป็นหนังสือเก่าไปแล้ว แต่คิดว่ายังทรงคุณค่าอยู่นะ ไว้วันเสาร์จะตั้งหน้าตั้งตาถ่ายรูปไว้ทุกเล่ม แล้วค่อยมาเขียนวิจารณ์ในบล็อกนี้ครับ 🙂
หลายสัปดาห์ก่อนผมถูกเรียกตัวด่วนเข้าศูนย์คอมพิวเตอร์ของที่ทำงานครับ โดยได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้แก้ปัญหาระบบ Billing ด่วน เพราะระบบพิมพ์ใบเรียกเก็บลูกหนี้และระบบพิมพ์ใบเสร็จรับเงินให้ลูกค้าเกิดชะงักงัน ทำงานล่าช้าจนเกินกว่าจะยอมรับได้ ลูกค้าขององค์กรที่ผมทำงานอยู่มีมากมายครับ ในแต่ล่ะวันมีเข้ามาจำนวนราว 8,000 คนขึ้นไป ดังนั้นการออกใบเสร็จรับเงินจึงถือเป็นเรื่องสำคัญสุดขีดครับ เพราะออกใบเสร็จได้ก็แสดงว่าได้รับเงินเข้ากระเป๋าอย่างสมบูรณ์นั่นเอง และถ้าออกไม่ได้ แสดงว่าองค์กรจะสูญเสียเงินรายได้ถึงวันล่ะ 20 ล้านบาท!!! ทีนี้เรื่องยุ่ง ๆ มันก็อยู่ตรงที่ผมได้รับมอบหมายให้มาตรวจสอบว่าทำไมออกใบเสร็จรับเงินล่าช้า แต่ผมต้องควานหาครับ ว่าต้นตอนั้นเกิดจากที่ใด แถมต้องรายงานความคืบหน้าด้วยว่าดำเนินการยังไงไปบ้างแล้ว ประเด็นมันอยู่ที่ระบบ Billing ดังกล่าว
ถึงบล็อกนี้จะโม้แต่เรื่อง Software as a Service เพียงอย่างเดียว แต่ก็ขอผมจารึกไว้หน่อยครับว่า วันนี้ (20 กันยายน 2549) คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ได้ประกาศยึดอำนาจการบริหารประเทศไทยไว้เรียบร้อยแล้วครับ จารึกไว้เพื่อเป็นสิ่งจดจำครับ ร่วมสมัยไปเลย
หลังจากผมเพิ่มหัวข้องานนิพนธ์และหนังสือเก่าขึ้นมา ผมก็วุ่นวายกับการหาข้อมูลสำหรับสองหัวข้อดังกล่าวอยู่พอสมควรครับ และยังต้องพัฒนาซอฟต์แวร์ตัวใหม่เพื่อเพิ่มในห้องแล็ป เพราะเห็นว่ามีแค่ PeeTai Nominal และ PeeTai Metrology มันยังน้อยเกินไปครับ คิดว่าจะสร้างขึ้นมาเรื่อย ๆ ตามแนวคิด Software as a Service ก็เลยเพิ่งได้มีโอกาสกลับมาต่อบทความวันนี้เอง กลับมาต่อจากหัวข้อที่แล้วดีกว่าครับ ผมคุยค้างเอาไว้เรื่องการเชื่อมโยงข้อมูลกันในระบบ Enterprise และเคยให้ดาวน์โหลด E-Book Network Programming