เมื่อหลาย ๆ ๆ ปีก่อน ผมเคยชวนเพื่อนให้ทำหุ่นยนต์สังเกตการณ์ แบบว่าให้หุ่นยนต์จับภาพวัตถุเป้าหมาย แล้วส่งข้อมูลภาพในรูปแบบโครงร่างผ่านคลื่นวิทยุมายังคอมพิวเตอร์ จากนั้นให้คอมพิวเตอร์แสดงภาพโครงร่างที่หุ่นยนต์จับภาพได้ออกมา โดยผมขอให้เพื่อนรับผิดชอบการทำวงจร (เพราะมันเก่งไฟฟ้า) ส่วนผมจะรับผิดชอบการเขียนโปรแกรมเพื่อแสดงภาพสามมิติเอง!!! ผลปรากฎว่าเพื่อนผมเขาไม่เอาด้วย เขาบอกว่ามันยาก เพราะเขาไม่สามารถคำนวณวงจรให้มีขนาดเล็กกะทัดรัดได้ เขาบอกว่าวงจรไฟฟ้าที่ดีจะต้องกินไฟฟ้าน้อยและเล็กกะทัดรัด (คงเหมือนกับการเขียนโปรแกรมที่ดี ที่จะต้องสั้นที่สุดแต่มีพลานุภาพมากที่สุด) ดังนั้น จินตนาการอันนี้ก็เลยตกไป!!! พอมาถึงตอนนี้ กลายเป็นว่าสิ่งประดิษฐ์ในย่อหน้าข้างบนที่เคยคิดจะทำ มันเริ่มออกมาโลดแล่นในโลกมายาและโลกแห่งความเป็นจริงมากขึ้นเรื่อย ๆ จนมันมีความเป็นไปได้ที่จะจัดซื้อจัดหามาได้โดยง่าย อีกทั้งมันยังมีมาตรฐานในการเชื่อมต่อที่ไม่เป็นแบบระบบปิดอีกต่อไป!!!
Category: Inspiration
จินตนาการในเรื่องทางคอมพิวเตอร์ ที่ไม่รู้จะจัดเข้าพวกไหนดี
โจทย์ : จงคำนวณวงจรตามภาพข้างล่างนี้ ให้ Twitter เป็นแหล่งจ่ายแรงดันแบบไม่ขึ้นกับกระแสขนาด 18V ซึ่งจ่ายกระแส 8A ให้ Facebook เป็นแหล่งจ่ายแรงดันแบบไม่ขึ้นกับกระแสขนาด Vx ซึ่งจ่ายกระแส 13A ให้ Bit.ly เป็นตัวต้านทานซึ่งมีค่า 5Ω ให้ Twitpic เป็นตัวต้านทานซึ่งมีค่า 6Ω ให้หาค่าของตัวต้านทาน Brizzly!
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงซึ่งมีความต้องการที่สลับซับซ้อน และโชคดีที่มีนักจิตวิทยาอย่าง “มาสโลว์” ได้ช่วยอธิบายลำดับขั้นความต้องการของมนุษย์เอาไว้แล้ว!!! ตารางข้างบนคือลำดับขั้นความต้องการทั้ง 5 ขั้นของมนุษย์ ซึ่ง “มาสโลว์” ได้อธิบายเอาไว้ โดยสิ่งที่ผมขยายความให้เห็นเป็นตัวสีแดงก็คือ สิ่งที่ซอฟต์แวร์สามารถตอบสนองความต้องการของมนุษย์ได้ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะโดยทางตรง หรือทางอ้อม!! จะเห็นว่า … ซอฟต์แวร์ไม่ค่อยจะตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์ ในขณะที่ความต้องการเกี่ยวกับสังคมของมนุษย์ กลับสามารถตอบสนองได้อย่างมากมายมหาศาล!!! นี่เป็นหลักฐานอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า ซอฟต์แวร์เป็นเครื่องมือสำหรับมนุษย์ซึ่งมีพื้นฐานชีวิตที่ดี … จึงไม่น่าแปลกใจ … หากอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์จะเจริญก้าวหน้าในประเทศพัฒนาแล้ว
เดี๋ยวนี้ศัพท์แสงมันเยอะ บัญญัติกันมาแต่ล่ะที ต้องแบ่งสมองมาทำความเข้าใจ งั้นเอาที่ฝรั่งเขียนมาแปลกันดุ้น ๆ เลยดีกว่า เผื่อจะเข้าใจได้มากขึ้น 1. Web Operating System แบบฝรั่ง Web operating system is distinct from Internet operating systems in that it is
หลังจากค้นหาอยู่หลายตลบ ในที่สุดก็หา ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. … เจอจนได้!!! มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัตินี้ “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับบุคคล ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม อือม อ่านแล้วรู้สึกว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล” มันมีรายละเอียดที่กว้างขวางมาก!!! โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าควรแยกข้อมูลส่วนบุคคลออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ 1. ข้อมูลทะเบียนประวัติ อันได้แก่
จากการที่ผมคลุกคลีอยู่ในวงการคอมพิวเตอร์มาหลายปี ทำให้ผมได้ยินได้ฟังเรื่องเล่ากล่าวขวัญ ถึงตำนานลึกลับเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มามากมาย ซึ่งตำนานเหล่านั้นล้วนไม่สามารถพิสูจน์ได้ด้วยวิทยาศาสตร์ แต่มันก็เกิดขึ้นแล้วจริง ๆ โดยสามารถอธิบายตำนานต่าง ๆ ได้ดังต่อไปนี้ ถ้าคุณเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วเครื่องมันไม่ติด แสดงว่าต้องมีผีมากินไฟที่เครื่องแน่นอน ให้แก้ไขโดยการเอาปลั๊กไฟไปเสียบที่เต้าไฟฟ้าซะ ถ้าคุณพบว่าจอภาพคอมพิวเตอร์ไม่ติด แต่ตัวเครื่องมีไฟฟ้าไหลเข้าและติดดี แสดงว่าต้องมีผีสิงอยู่ในการ์ดจอ ให้แก้ไขโดยการตบตัวเครื่องหนัก ๆ หลาย ๆ ที เพื่อให้การ์ดจอเข้าที่ แล้วผีมันก็จะออกไปเอง ถ้าคุณเปิดเครื่องแล้วได้ยินเสียงดัง ตู๊ด….ตู๊ด…………..ตู๊ด…ตู๊ด…………. ให้สันนิษฐานไว้เลยว่า
ผมว่ามันเป็นเรื่องจำเพาะนะ ที่มีเฉพาะซอฟต์แวร์เท่านั้นที่มีการกำหนดเลขรุ่นเป็นทศนิยมหลายตำแหน่ง ในขณะที่ของหลาย ๆ อย่างและสิ่งหลาย ๆ สิ่งกลับไม่ได้ถูกกำหนดเป็นเลขรุ่นเอาไว้ ทั้ง ๆ ที่สิ่งเหล่านั้นก็ล้วนมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นกฎเป็นเกณฑ์ และสามารถตรวจวัดได้อย่างไม่ยากเย็นนัก อย่างเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือเครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ ก็ล้วนใช้วิธีการกำหนดรุ่นด้วยตัวอักษรปนตัวเลข ในขณะที่รถยนต์กลับใช้คำเฉพาะ เพื่อแสดงความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ในแต่ล่ะรุ่น!!! ผมก็เลยคิดเล่น ๆ ว่าผมน่าจะเอาสภาวะของ เพื่อน กิ๊ก แฟน และ คู่ครอง มากำหนดเป็นเลขรุ่นทศนิยมหลายตำแหน่ง และบอก
ถ้า Notebook ที่ผมใช้อยู่เจ๊ง ครั้งหน้าผมจะซื้อ Netbook นี่คือสิ่งที่กำลังกังวานอยู่ในความคิดของผม ยามที่ผมมองดูคนในครอบครัวใช้ Netbook กัน Netbook = Internet + Notebook และมันก็ได้ทำงานสมกับนิยามของมันจริง ๆ มันเหมาะมากกับนิยามของ Software as a Service ซึ่งการบริการ Software ทั้งหลายถูกส่งผ่านมาทางอินเทอร์เน็ต และยิ่งดีขึ้นไปอีก
รู้ข่าวมาหลายอาทิตย์แล้วว่า Oracle ตกลงจะแต่งงานกับ Sun Microsystems อือม ถือเป็นการผสมพันธุ์ที่ไม่ได้ข้ามสายพันธุ์อะไรมากนัก งั้นเพื่อเป็นการฉลองการแต่งงานในครั้งนี้ ผมก็เลยลองเขียนแผนภาพวิเคราะห์การสืบพันธุ์ของทั้งสองบริษัทซะหน่อย ว่าลูกหลานน่าจะออกมาหน้าตาเป็นยังไง โดยใช้กฎของเมนเดลเป็นเกณฑ์ในการวิเคราะห์ในครั้งนี้ ถ้ามั่วนิ่มเอาเรื่องของ Oracle กับ Sun มาผูกเข้ากับกฎเมนเดล ก็จะสามารถตีขลุมกล้อมแกล้มได้ว่า ทายาทรุ่นที่ 3 ของทั้งสองบริษัท จะมีอยู่หน่วยหนึ่งที่เหมือนกับ Sun Microsystems นั่นเอง อิ
ในทางฟิสิกส์บอกเราเอาไว้ว่า หากสสารมีมวลมาก ๆ แล้วไซร้ มันก็ย่อมจะมีแรงโน้มถ่วงเกิดขึ้น … ไม่มาก ก็น้อย!!! แรงโน้มถ่วงตรวจจับได้ยาก แต่มีรัศมีทำการที่กว้างไกล ดังนั้น สสารใดที่มีมวลน้อยกว่า ก็ย่อมจะถูกสสารที่มีมวลมากกว่าดึงดูดโน้มถ่วงเอาไว้ … เป็นธรรมดา! ถ้าเราเปรียบคลื่นทั้งสามลูกที่ ALVIN TOFFLER อธิบายให้เราเข้าใจนั้นเป็นดั่งสสาร มันก็คงจะเป็นสสารที่มีมวลมาก มากจนกระทั่งสามารถเกิดแรงโน้มถ่วงให้มนุษย์ตัวเล็ก ๆ อย่างพวกเรา เกาะเกี่ยวอยู่กับคลื่นเหล่านั้นไว้ไม่หลุดไปได้ง่าย ๆ