ช่วงนี้ผมกำลังนั่งอ่านหนังสือชี้ชวนเพื่อให้ซื้อหุ้น IPO ของบริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) อยู่ครับ รายละเอียดมันเยอะพอดูเลย คงต้องค่อย ๆ อ่านไปอย่างเกลี้ยงเกลาและเยือกเย็น

เข้าใจว่าพวกเราน่าจะรู้จักบริษัทนี้ดี คิดว่าอาจจะรู้จักดีกว่าปรกติด้วย เพราะบริษัทนี้เขาเป็นเบอร์หนึ่งในธุรกิจผู้ให้บริการเกมออนไลน์ของประเทศไทย (สงสัยแม้แต่เด็กแปดขวบแถวบ้านผมก็น่าจะใช้บริการของบริษัทนี้เหมือนกัน)

มันน่าจะเป็นเรื่องทีดีสำหรับประเทศไทยนะผมว่า กับการที่บริษัทที่ทำธุรกิจซอฟต์แวร์เริ่มตบเท้าเดินเข้าตลาดหลักทรัพย์กันมากขึ้น จากเดิมที่มีเพียงธุรกิจการเงิน, การธนาคาร และอุตสาหกรรมหนักเท่านั้น ที่จะสามารถเข้าไประดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ได้

ถ้าไม่ปลายปีนี้ก็คงจะเป็นต้นปีหน้าล่ะนะ ที่บริษัทเอเชียซอฟท์จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้ (เดาเอาเองอันนี้ เพราะจริง ๆ แล้วมันเป็นอำนาจของ กลต. ที่จะพิจารณาอนุมัติ)!!!

กลุ่มทุนเหล่านี้ถ้าเป็นที่สหรัฐอเมริกาควรจะถูกนิยามว่าเป็นกลุ่มทุนไฮเทค และก็ควรจะเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์เฉพาะของเขาที่เรียกว่า NASDAQ แต่ของเมืองไทยเราไม่มีตลาดแบบที่ว่า ดังนั้นกลุ่มทุนไฮเทคของไทยเราก็เลยต้องเข้าไปอยู่รวม ๆ กับกลุ่มทุนอุตสาหกรรมหนักอื่น ๆ ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแทน

ผมชอบโมเดลธุรกิจของบริษัทแบบนี้นะ เพราะมันต่างจากโมเดลของบริษัทที่ทำธุรกิจขายข้อมูลออนไลน์ หรือบริษัทที่ทำธุรกิจรับจ้างติดตั้งซอฟต์แวร์ รวมทั้งให้คำปรึกษาระบบซอฟต์แวร์ โดยจุดที่ชอบก็คือ

1.  มีช่องทางในการกระจายบริการ โดยอาศัยอินเตอร์เน็ตเป็นกระดูกสันหลังหลัก ในการนำส่งบริการให้แก่ผู้บริโภค ต้นทุนต่ำดี เพราะผู้บริโภคนั่นแหล่ะต้องเป็นคนออกค่าเน็ตเอง

2.  ไม่ต้องมากังวลกับปัญหาลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ เพราะซอฟต์แวร์เป็นการบริการไปแล้ว ไม่มีใครมาละเมิดการบริการซึ่งเป็นสิ่งจับต้องไม่ได้ และการบริการก็เป็นเรื่องของความจงรักภักดี ซึ่งของแบบนี้มันต้องใช้เวลามาสร้างกันอย่างต่อเนื่อง

3.  มีระบบและช่องทางในการจำหน่ายบัตร Airtime และบัตร Item ซึ่งมันเหมือนกับระบบบัตรเติมเงินของบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือเลย ดังนั้นจึงมีโอกาสสูง ที่จะพลิกแพลงรูปแบบการใช้บัตร Airtime และบัตร Item เหล่านี้ได้ในภายหลัง เหมือนกับที่บริษัทมือถือทำอยู่ในปัจจุบันนี้

4.  สำหรับผมแล้วเห็นว่าบัตร Airtime และบัตร Item นั้น เปรียบได้กับ “เงินตราเสริม” ซึ่งออกโดยบริษัทเกมส์ออนไลน์ โดยมีบริการของบริษัทเป็นสิ่งหนุนหลัง “เงินตราเสริม” เหล่านี้ ซึ่งมันจะทำให้บริษัทมีอำนาจต่อรองอะไรอย่างอื่นในภายภาคหน้าได้

ตอนนี้มันเลยคล้าย ๆ กับว่า ธุรกิจที่ให้บริการออนไลน์ผ่านอินเตอร์เน็ต กำลังจะมีโอกาสในการสะสมความมั่งคั่งได้อย่างรวดเร็ว เหมือนกับที่ครั้งหนึ่ง ธุรกิจซึ่งให้บริการโทรศัพท์มือถือเคยทำได้มาแล้ว

ป.ล. ถ้าปีหน้าเขากระจายหุ้น IPO สำเร็จ ผมก็คงพอมีตังค์อยู่บ้างที่จะไปซื้อหุ้นเขาได้ งั้นตอนนี้คงต้องอยู่อย่างพอเพียงไปก่อนก็แล้วกัน อิ อิ 😛

[tags]อุตสาหกรรม, เกมออนไลน์, เอเชียซอฟท์, อินเตอร์เน็ต, คอมพิวเตอร์, ลงทุน[/tags]

Related Posts

8 thoughts on “อุตสาหกรรมเกมออนไลน์

  1. เรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ ผมเห็นทำกันเป็นล่ำเป็นสันเลยครับพี่ไท้ ลองไปดูแถวบอร์ดประมูลครับ

    เนื่องจากเด็กไทยใจร้อน patch ของผู้ให้บริการในเมืองไทยมันช้ากว่าของเกาหลี แถมกฏของเกมที่ตั้งมาก็ไม่ค่อยโดนใจวัยรุ่นเท่าไหร่ ก็เลยตั้ง server เล่นกันเองเฉพาะกลุ่มไปเลย ไม่ต้องเสียเงินมาซื้อบัตรเติมตังค์เพื่อไปซื้อไอเทมในเกม อยากได้อะไรก็เสกมันขึ้นมาได้เลย เพราะเป็น GM เอง จำนวนคนเล่นไม่เยอะ server ก็ไม่ lag และอีกล้านแปดเหตุผลที่จะยกมาอ้าง เพื่อละเมิดลิขสิทธิ์

    เนื่องจากเทคโนโลยีที่สูงขึ้น บวกกับการเข้าถึงแหล่งข้อมูลที่ง่ายขึ้น ทำให้ง่ายต่อการละเมิดลิขสิทธิ์

    น้อง ม.2 ข้างบ้านผม ใช้พีซีเปิดเป็น server ชวนเพื่อนที่โรงเรียนมาเล่นด้วยกันเกือบๆ 100 คน

    รุ่นน้องที่มหาลัย ลงขันกันซื้อ server แล้วเปิดให้รุ่นพี่รุ่นน้องมาเล่นด้วยกันทั้งหอ

    แล้วยังมีกองโจรเล็กๆแบบนี้อีกนับไม่ถ้วนเลยครับ

    ตอนนี้เลยช่วงพีคของเกมออนไลน์มาแล้ว อายุของเกมมันสั้นลงอย่างน่าใจหายเลยครับ มีตัวเลือกให้เล่นเยอะแยะไปหมดในตลาด เด็กคนนึงเล่นหลายเกม และเปลี่ยนเกมเล่นกันบ่อย เพื่อนๆเล่นเกมไหน ก็แห่ตามกันไปเล่นเกมนั้น บางเกมซื้อลิขสิทธิ์มาเปิดให้บริการ ยังไม่ทันจะ break even เลยด้วยซ้ำก็ต้องปิดตัวลง แล้วซื้อลิขสิทธิ์เกมใหม่เข้ามาให้บริการ

    ข้อมูลเล็กๆน้อยๆ จากอดีตเด็กติดเกมครับ 😀

  2. อืมมม ผมไม่มีชีวิตส่วนไหนที่เกี่ยวข้องกับเกมเลย เลยไม่รู้จัเม้นต์อะไร
    แถม เรื่องหุ้นอีก ซึ่งห่างไกลกันคนละโยชน์ 555

  3. ตามมาอ่านครับ เห็นว่าเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวมากๆ

    กะว่าถ้ามีเงินก้อน ก็จะลองซื้อหุ้นสักหน่อย

    อ่านจากคุณ RedHooligan ก็เห็นด้วยบางส่วนครับ
    เรื่องอายุเกมที่สั้น และมีเกมใหม่ๆเข้ามาไทยเรื่อยๆ
    แต่ Asiasoft ไม่ได้ทำแค่เกมออนไลน์ครับ.. 🙂

  4. ขอพูดเรื่องเกมส์ออนไลน์หน่อยนะครับ เพราะอยู่ในวงการพอดี ผมกำลังมองว่าเป็นตลาดที่น่าสนใจ ประเด็นหนึ่งก็คือ เงินออนไลน์ เพราะในเกมส์จะมีการซื้อขายของในเกมส์หรือแม้แต่บริการ หาก asiasoft มีระบบเงินที่เป็นระบบของตัวเอง ทำตัวเองให้เหมือนกับธนาคาร เหมือนกับเจ้าอื่นเช่น A-cash , TrueMoney หรือ paypal ก็ตาม ที่ต่างก็ออกบัตรเติมเงินมาเพื่อให้เติมเงินเข้ากับระบบของตัวเอง
    ตรงนี้ อาจจะทำให้เกิดธุรกรรมทางการเงินมากขึ้น เงินหมุนเวียนก็จะเยอะขึ้น แค่คิดก็ …

    ถ้าผมรู้เรื่องหุ้นก็บ้าง อาจจะลงทุนในหุ้นตัวนี้นะ

  5. ผมเคยทำงานเป็นเจ้าหน้าที่การตลาด หรือมาร์เก็ตติ้ง บล.กิมเอ็ง เกือบ 2 ปี

    ถ้าเป็นผม(กรณีถือยาว กินปันผล) ผมจะรอให้บริษัทนี้เข้าตลาดหุ้นมากสัก 4-5 ปี เพราะผลประกอบการ, ความสามารถด้านการบริหารของผู้บริหาร, ธรรมาภิบาล, ประสิทธิภาพการทำกำไร ฯลฯ ตัวตนที่แท้จริง มันจะค่อย ๆ ออกมา

  6. ไม่ว่าจะแวะมาตอนไหนก็เจ๋งสุด ๆ เสมอสำหรับพี่เรา (ต้องเรียกว่าอาจารย์ซิน๊ะ) อิอิอิ เรื่องบล็อกของอาจารย์โน๊ช ผมยังติดใจอยู่เลย ฮะๆๆๆ 😉

  7. เรื่อง server เถื่อนผมทราบมานานแล้วครับคุณ RedHooligan อันนี้แก้บ่ได้ครับ แต่อย่างที่บอกครับว่าบริการเป็นเรื่องของความจงรักภักดีล้วน ๆ ดังนั้นถ้าทำให้จงรักภักดีได้ ต่อให้มีของเถื่อนก็คงไม่เปลี่ยนใจบ่ได้หรอกครับ 😛

    อะไรกันนี่คุณ patsonic ซึ่งเป็นคนทางดนตรี ไม่เคยสนใจจะเล่นเกม audition บ้างเลยเหรอครับเนี่ย 🙂

    คุณข่ารู้เรื่องซอฟต์แวร์อย่างเดียวก็เทพแล้วครับ สงสัยถ้ารู้เรื่องหุ้นอีกคงเป็นโคตรเทพ อิ อิ

    ใช่ม้า ๆ คุณ xinexo เข้าไปแต่ล่ะทีเจอเกรียนเทพ level 99 เดินตามไล่ด่าตั้งแต่ดันเจี้ยนแรกยันดันเจี้ยนสุดท้ายเลย เกรียนจริง ๆ

    คิดเหมือนผมเลยครับคุณดิว ผมก็คิดงี้เหมือนกัน เพราะผ่านไปอีก 4 – 5 ปี ผมคงเก็บเงินซื้อได้หลาย ๆ หุ้นเลยล่ะ

    ออกหนังสือแล้วอย่าลืมเอาตังค์มาซื้อของอร่อย ๆ กิน แล้วจะได้มีแรงเขียนบล็อกดี ๆ ต่อล่ะคุณสิทธิศักดิ์ ^o^

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *