เมื่อหลายวันก่อน ผมได้พูดทิ้งค้างเอาไว้ในหัวข้อการสร้างซอฟต์แวร์ระดับ Enterprise เอาไว้ ดังนั้นเลยคิดว่าวันนี้มาต่อกันดีกว่า จากความเดิมตอนที่แล้ว ผมโม้ไว้ว่าซอฟต์แวร์ระดับใหญ่หลาย ๆ ตัวที่องค์กรของเราจัดซื้อจัดจ้างมานั้น มันจะไม่สามารถทำงานได้อย่างลุล่วงตลอดทั้งระบบงานเลย ถ้าเราไม่สามารถเชื่อมมันทั้งหมดเข้าด้วยกันได้ และผมก็ยังโม้เอาไว้อีกด้วยว่า ผู้บริหารขององค์กรเกือบทั้งหมด ไม่เคยตั้งงบประมาณสำหรับการเชื่อมระบบต่าง ๆ เอาไว้เลย ทีนี้สิ่งที่ถูกต้องคืออะไรล่ะ??? นักพัฒนาซอฟต์แวร์อย่างเราซึ่งทำงานอยู่ในองค์กรนั้น ๆ ก็ต้องมาวางแผนที่จะเชื่อมมันเข้าหากันไงครับ โดยศัพท์ทางเทคนิคเราเรียกว่าการทำ GAP Analysis GAP Analysis
Category: Programming
พูดคุยแต่เรื่องสร้างซอฟต์แวร์
พวกเราตอนนี้สร้างซอฟต์แวร์กันได้ระดับไหนแล้วครับ? 🙂 บางคนอาจจะตอบผมว่าสร้างได้นิดหน่อย, ตัวเล็ก ๆ บ้างก็อาจจะบอกว่าซอฟต์แวร์ผมติดต่อฐานข้อมูลได้, บางคนซึ่งเรียนทางด้านวิศวะมาอาจจะบอกว่า ซอฟต์แวร์ผมสามารถสั่งการควบคุมรถฉีดน้ำที่ฝังไมโครคอนโทลเลอร์เอาไว้ เป็นต้น หลายแง่หลายมุมครับ แต่ก่อนที่เราจะเข้าไปคุยกันเรื่อง การสร้างซอฟต์แวร์ระดับ Enterprise ผมว่าเรามาทำความเข้าใจรูปแบบการพัฒนาซอฟต์แวร์ตอนที่เราเรียนหนังสือกันอยู่ กับตอนที่เราออกมาทำงานในองค์กรข้างนอกจริง ๆ กันดีกว่าครับ ในตอนที่เราเรียนหนังสือกันอยู่นั้น ท่านอาจารย์จะเป็นผู้มอบหมายการบ้านให้เราทำครับ ซึ่งการบ้านที่ได้มักทำคนเดียว การบ้านส่วนใหญ่ก็คือการพัฒนาซอฟต์แวร์นั่นแหล่ะ ซึ่งก็แล้วแต่ว่าจะเป็นการพัฒนาซอฟต์แวร์ตามหัวข้อวิชาใดที่เราเรียนกันมา ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเรียนวิชา Software